Mini Rover ฉลองครบรอบ 40 ปี

มาอีกแล้วครับกับรถมินิที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการผลิต Mini คันแรกในปี 1959 เป็นของ Corgi ครับ No.CC82201 Mini Classic Edition ผลิตโดย Corgi Classic Limited, UK ในจีน ปี 2001 ความยาว 8.5 ซม. (อัตราส่วน 1:36) รถเหล็ก Mini Rover ยุคปี 1990 คันนี้ผลิตจำนวนจำกัด ด้วยสีทองพิเศษ "Nightbridge Gold" ใต้ท้องโลหะสีดำ ไฟหน้าเพิ่มพิเศษบนกันชน 2 ดวง ประตูปิด-เปิดได้ ล้อยางถอดได้ ดุมล้อลายแม็กสีบรอนซ์เงิน กระจกใส ภายในสีเบจ พวงมาลัยสีดำ บรรจุในกล่องโชว์พิเศษพร้อมใบรับรองการผลิตจำนวนจำกัด คันนี้เป็นคันที่ 294 จากจำนวนการผลิตทั่วโลก 5,500 คัน น่าเก็บครับเพราะเป็นการผลิต เนื่องในวาระโอกาสสำคัญและยังมีจำนวนจำกัดอีกด้วย

รถโฟล์กที่ผลิตสำหรับสมาชิกสมาคมรถเหล็ก Lledo

มีรถที่ผลิตขึ้นมาแบบพิเศษๆ มาให้ดูกันอีกครับเป็นรถเหล็ก Lledo No.86002-1955 VW Camper ชุด Collectors Club Summer 1998 ผลิตในอังกฤษ ปี 1998 ความยาว 8.6 ซม. จำนวนจำกัดเพียง 1500 คันเท่านั้นและคันนี้เป็นที่ 627 รถโฟล์กตู้สีส้ม ใต้ท้องโลหะสีดำ กระจกใส ภายในสีดำ ล้อยางถอดได้ บรรจุในกล่องพิเศษ พร้อมใบ Limited Certificate ที่ว่าพิเศษก็เพราะว่ารถเหล็กคันนี้ผลิตขึ้นสำหรับสมาชิกสมาคมรถเหล็ก Lledo (ก่อตั้งปี 1990) เท่านั้น ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ค่อนข้างหายากครับ

รถโฟล์กกับสัญลักษณ์ฮิปปี้

วันนี้ผมมีรถโฟล์กน่ารักๆ มาให้ดูกัน เป็นรถโฟล์ก 1955 VW Camper ของ Lledo ในชุด The Custom and Classic Collection ผลิตในอังกฤษ ปี 1996 ความยาว 8.8 ซม. รถสีม่วงอ่อนตกแต่งลาย Hippy พวกฮิปปี้หรือบางทีเราเรียกว่าบุปผาชน เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวในช่วงยุคปี 1960 ในยุคนี้สีสันของงานศิลปะจะมีลักษณะและลวดลายโดยเฉพาะ มักจะใช้สีสันสดใสและตัดกันอย่างรุนแรง นิยมใช้รถโฟล์กตู้เก่าๆ เป็นพาหนะพ่นสีสดใส มีลายดอกไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพวกฮิปปี้ และพวกฮิปปี้เป็นพวกต่อต้านสงคราม รถคันนี้มีโลโก้วงกลมและเส้นแบ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ

พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมยานพาหนะทุกประเภทจากทุกมุมโลก

สงกรานต์ปีนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเที่ยว JESADA TECHNIK MUSEUM เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพและผมก็คุ้นเคยกับย่านนี้มากพอสมควร ที่นี่มีอะไรดีเหรอครับ ขอบอกว่าสุดยอด เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมยานพาหนะทุกประเภทจากทุกมุมโลก เป็นแห่งเดียวในประเทศไทยและอาจจะเป็นที่ซึ่งมีของสะสมมากที่สุดในแถบเอเชีย พิพิธภัณฑ์นี้ได้รวบรวมรถทุกประเภทและจุดเด่นของยานพาหนะที่สะสมอยู่ คือ รถเล็ก รถการ์ตูน หรือ Bubble Car พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทย ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก โดยในการเดินทางแต่ละครั้ง ได้มีโอกาสเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในต่างประเทศ ได้เห็นความสวยงาม วัฒนธรรม ของสะสมล้ำค่าในต่างประเทศมากมาย ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ มีแนวคิดอยากทำการสะสมขึ้น ประกอบกับมีใจรักและชอบในหมวดยานพาหนะมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะรถเล็ก (Bubble Car) ที่มีความชื่นชอบเป็นพิเศษ จึงทำการซื้อ และเริ่มสะสมยานพาหนะอย่างจริงจังยาวนานมานับ 10 ปี โดยรถคันแรกในชีวิตของการสะสมเป็นรถเล็กที่ประมูลมาได้จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีรถจำนวนมากเลยครับที่ไม่เคยเห็น แจ่มๆ ทั้งนั้น ใครที่สนใจจะไปชมจะไปยังไงลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ http://www.jesadatechnikmuseum.com/ ได้เลยครับ วันที่ผมไปโชคดีได้มีโอกาสพบคุณเจษฏาเจ้าของพิพิธภัณฑ์ใจดีพาชมด้วยครับ พิพิธภัณฑ์เจษฎา เทคนิค มิวเซียม ได้เปิดบริการให้เข้าเยี่ยมชมได้ใน วันอังคาร์-วันอาทิตย์ ในเวลา 9.00-17.00 น. โดยทางพิพิธภัณฑ์จะตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 100 หมู่ 2 ตำบลงิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73110 หรือ สามารถโทรติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางหมายเลข (66)2 883-2880 และทางโทรสารได้ที่หมายเลข (66)2 433-0725 เอารูปมาฝากกันนิดหน่อยนะครับ ไปดูของจริงกันดีกว่า ถ้าพลาดแล้วคุณจะเสียใจ

Chitty Chitty Bang Bang

สวัสดีวันสงกรานต์นะครับ ขอให้นักสะสมรถเหล็กทุกท่านประสบแต่ความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาก็แล้วกันนะครับ ไม่มีอะไรมาฝากเอารถเหล็กคันนี้มาฝากกันก็แล้วกันครับ นั่นก็คือรถเหล็ก Corgi No.05301 Chitty Chitty Bang Bang รถจากภาพยนตร์ Chitty Chitty Bang Bang ผลิตครั้งที่ 2 ปี 2005 (ผลิตครั้งแรกปี 1968) โดย Corgi Classic Limited, England ในจีน ความยาว 12.8 กว้าง 4.5 ซม. และ 11 ซม. เมื่อกางปีกสุดรถเหล็กคันนี้เป็นรถเหล็กที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Corgi เป็นอย่างมาก แม้เวลาผ่านไปถึง 40 ปี ก็ยังมีผู้ต้องการเป็นเจ้าของอยู่ตลอดมา Corgi จึงได้ตัดสินใจผลิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะรุ่นที่ผลิตครั้งแรกนั้นผู้ที่จะได้ครอบครองต้องจ่ายมากกว่า 10,000 บาท (สภาพดี-มีกล่อง) รถเหล็ก Chitty Chitty Bang Bang ที่ผลิตครั้งที่สองนี้ส่วนใหญ่ เช่น สีสันและวัสดุ ขนาด น้ำหนักใกล้เคียงของเดิม ยกเว้นรายละเอียดบางอย่างเปลี่ยนไป เช่น ดวงไฟไม่ได้ใช้คริสตัล ปีกกลางลำตัว พับ-กางโดยใช้มือดึงตัวปีก โดยดึงเพียงข้างเดียวอีกข้างก็จะกางออกมาเอง ส่วนของเดิมนั้นกางโดยการโยกก้านเบรก, เข็มขัดรัดฝากระโปรงใช้สกรีนลงบนฝากระโปรง ของเดิมเป็นเส้นพลาสติกสีดำคาดจริง รถ Chitty ใหม่ไม่มีปีกหน้า-หลัง และตัวละครที่นั่งบนรถมีเพียงคนขับคนเดียว ของเดิมมี 4 คน ใต้ท้องของรถ Chitty รุ่นนี้ยังคงทำด้วยโลหะสีบรอนซ์เงินเหมือนเดิมครับ สภาพใหม่พร้อมกล่องบรรจุสีสันสวยงามไม่แพ้ของเดิมครับ มีแผ่นคู่มือบอกวิธีกางปีกและไปรษณียบัตร ขอแคตตาล๊อก และข้อมูลของสมาคมนักสะสม Corgi อยู่ด้วยครับ ใครอยากเกี่ยวกับรถคันนี้ให้ละเอียดผมได้เขียนเอาไว้ใน http://www.toy2hand.com/ ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ

ภาพด้านล่าง 3 ภาพ เป็นรถที่ผลิตครั้งที่ 2 ในปี 2005

ภาพข้างล่างนี้เป็นรถที่ผลิตครั้งแรก ในปี 1968 (เห็นความแตกต่างอะไรมั๊ยครับ)

รถมินีในโอกาสครบรอบ 40 ปี

ใครที่ชอบรถมินิมาที่นี่มีรถหลายรุ่นให้ดูจุใจ เพราะนายรถเหล็กเองก็ชอบรถมินิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะรถมินิจริงๆ เอาเป็นว่ายังไม่มีโอกาสถอยของจริงเอามาขับเล่น แค่ชื่นชมที่เป็นโมเดลมินิก็สุขใจแล้วละครับ วันนี้เป็นรถเหล็ก Lledo Mini No.1 40th Anniversary of Mini รถมินิคันแรกและเป็นรถเหล็กที่ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก ผลิตในอังกฤษ ปี 1999 ความยาว 7.2 ซม. (1:43)
รถจริงเป็นรถที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกโดย Sir Alec Issigonis ผู้สร้าง Mini เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 1959 และรถเหล็ก Mini สีขาวอมเทา ป้ายทะเบียน 621 AOK ก็ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกเหมือนกันโดย Lledo ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของรถมินิ ตัวรถสีขาวอมเทาใต้ท้องโลหะสีเดียวกัน กระจกใส ภายในสีเทา พวงมาลัยสีดำ ล้อยางถอดได้ บรรจุในกล่องโชว์บนฐานสีดำ มีชื่อรถสีทอง "Mini No.I" ผลิตโดยได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจาก Rover Group ครับ

รถเหล็กไปรษณีย์แห่งอังกฤษ Mini Van Royal Mail

รถเหล็กมินิเป็นรถยอดนิยมที่มีผู้สะสมกันมากนะครับ และรถที่ผมนำมาให้ดูกันในวันนี้ก็เป็นรถที่หายากพอควร รถคันนี้ก็คือ รถVanguard No.VA14001 Austin 7 Mini Van Royal Mail ผลิตในอังกฤษ ปี 1997 ความยาว 7.7 ซม. (1:43) รถจริง Austin Mini Van ใช้ในกิจการไปรษณีย์ในอังกฤษในยุคทศวรรษ 60 และ 70 อาจเป็นเพราะว่าตัวรถมีขนาดเล็กใช้ซอกซอนไปส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วรถเหล็ก Mini Van ไปรษณีย์สีแดงของ Vanguard มีโลโก้ Royal Mail สีทองอยู่ทั้งสองข้าง และมีตราวงกลมสีดำอยู่ที่ประตูด้านซ้ายและตัวเลขสีขาวเล็กๆ ที่ซุ้มล้อทั้ง 4 ล้อ (เดาเอานะครับว่าเป็นความดันลมยางที่จะต้องเติมให้ถูกต้อง) ซึ่งรถรุ่นอื่นๆของการไปรษณีย์อังกฤษ ก็จะมีตัวเลขที่ซุ้มล้อแบบเดียวกันนี้เช่นกัน กันชนหน้าหลังและไฟหน้าโครเมี่ยม กระจกใส ภายในสีดำ ล้อยางถอดได้ ดุมล้อโครเมี่ยม ผลิตโดยได้รับอนุญาตจาการไปรษณีย์อังกฤษ กระจกมองข้างทั้งสองยังไม่ได้ติดตั้งที่ตัวรถ พร้อมสติกเกอร์ป้ายทะเบียนที่ยังไม่ได้ติดบนแผ่นป้ายทะเบียนบนตัวรถ