Showing posts with label Brumm. Show all posts
Showing posts with label Brumm. Show all posts

Thursday 21 September 2023

รถเหล็ก Brumm Series ORO15 Ford 999 (1902)





รถเหล็ก Brumm Series ORO15 Ford 999 (1902) ผลิตในอิตาลี ปี 1994 ความยาว 10.9 ซม. (1:43)

รถเหล็กโมเดลฟอร์ด 999 สีน้ำตาล-เทา บางส่วนของเครื่องยนต์ชุบโครเมี่ยม มีรูปลอกน้ำหมายเลข 999 บนถังน้ำมัน ล้อซี่ลวดโลหะ ดุมล้อสีทอง ล้อยางถอดได้

ตัวรถจริงผลิตขึ้นมาเพียง 2 คัน เพื่อใช้เป็นรถแข่ง ความเร็วในปี 1901 ออกแบบโดยเฮนรี่ ฟอร์ด เครื่องยนต์มีกำลัง 26 แรงม้า ฟอร์ดสามารถเอาชนะผู้ท้าชิงคือ Alexander Winton ได้ นับเป็นการแข่งรถครั้งแรกๆ ของโลกก็ว่าได้


Wednesday 16 March 2022

Porsche Spider 550 รถคู่ใจตลอดกาลของเจมส์ ดีน

       


 อุบัติเหตุรถยนต์ชนกันเมื่อวันที่ 30 กันยายน 1955 เวลา 17.45 น. ที่เมือง Bakersfild USA ทำให้เกิดเรื่องราว 2 เรื่องที่อยู่ในความทรงจำของชาวอเมริกันและผู้คนเกือบทั่วโลกคือ การเสียชีวิตของเจมส์ดีน ดาราภาพยนตร์ขวัญใจวัยรุ่นในยุค ’50 ด้วยวัยเพียง 24 ปี และกำลังมีชื่อเสียงจึงทำให้เขานั้นกลายเป็นดาราอมตะที่มีผู้คนยังจดจำได้จวบจนทุกวันนี้ และอีกเรื่องหนึ่งคือ ทำให้รถแข่ง Porsche Spider 550RS หมายเลข 130 คัน ที่เขาประสบอุบัติเหตุนั้นกลายเป็นรถที่โด่งดังและผู้คนจำได้ว่าเป็นรถของ เจมส์ ดีน (แต่อาจจะไม่รู้ว่าเป็นรถอะไรหรือรุ่นอะไร) เรามาทำความรู้จักกับเจมส์ ดีน ดาราอมตะผู้มีชื่อเสียงก้องโลก (ทั้งๆ ที่เขาแสดงภาพยนตร์ได้เพียง 3 เรื่องและอยู่ในวงการมาได้เพียง 4-5 ปีเท่านั้นเอง)


เจมส์ ดีน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 1931 ที่เมือง Marion รัฐ Indiana USA ปี 1950 เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่ Monica City รัฐ California ในระหว่างเรียนก็ได้งานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกจากโฆษณาน้ำอัดลม Pepsi-Cola ด้วยความชื่นชอบและหลงใหลในอาชีพนักแสดง เขาได้ตัดสินใจลาออกมหาวิทยาลัยในปี 1951 จากนั้นก็เข้าสู่วงการแสดงเต็มตัว เขาได้แสดงละครเรื่อง The Immoralist และได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์ TV ในปี 1952 ในเรื่อง “East OF Eden” ซึ่งดัดแปลงจากนิยายของจอห์น ไสตน์แบค ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar และภาพยนตร์อีก 2 เรื่องที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นคือ ภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without a Cause และภาพยนตร์เรื่อง Giant เจมส์ ดีนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ถึง 2 ครั้ง

         

นอกจากความสามารถในด้านการแสดงแล้ว เจมส์ ดีนมีความสามารถในการแข่งรถและเป็นผู่ที่รักการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ ต้นปี 1955 หลังจากประสบความสำเร็จจากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง East of Eden เขาก็เริ่มหันมาสนใจการแข่งรถอย่างจริงจังโดยเขาได้ซื้อรถแข่งคันแรกเป็นรถสปอร์ต MG TD ขนาดเครื่องยนต์ 1500 cc. สีแดง พร้อมๆ กับซื้อรถ Ford Country Squire Woodie Station Wagon สำหรับไว้ลากรถพ่วงซึ่งบรรทุกรถแข่ง 


     

รถ MG คันนี้ชนะการแข่งขัน Pacific Prestigious and Pasadena และยังลงแข่งขันที่สนาม Santa Barbara, California อีกด้วย 
ต่อมาอีกไม่นานในปีเดียวกัน เขาได้ซื้อรถ Porsche – Speedster (หมายเลขตัวถัง 82621) คันนี้เขาใช้แข่งชนะที่ 2 ในสนามที่ปาล์มสปริงเดือนมีนาคม 1955
  

ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without a Cause วันที่ 21 กันยายน 1955 เขาได้แลกซื้อ Posche 356 Speedster กับ Porsche 550 Spyder (ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรถที่รู้จักกันทั่วโลกว่าเป็นรถของเจมส์ ดีน)


รถ Porsche 550 Syder ในสมัยปี ’50 นั้น จัดได้ว่าเป็นรถรุ่นสุดยอดที่เป็นรถในฝันของนักแข่งในยุคนั้น ผู้ออกแบบตัวถังคือ Erwin Komenda รถรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาเพียง 78 คันทั่วโลกเท่านั้น 550 Spyder เป็นรถแข่งที่มีขนาดเล็ก ความยาว 141.75 นิ้ว กว้าง 51 นิ้ว สูง 40 นิ้ว น้ำหนักรถ 1480 ปอนด์ ความจุถังน้ำมัน 22 แกลลอน เครื่องยนต์ 4 สูบ 1490 cc. 110 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความเร็วสูงสุด 129 ไมล์/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ ใช้เวลา 7.2 วินาที ตัวรถสีบรอนซ์เงิน เบาะสีแดง หมายเลขสองข้างประตูและบนฝากระโปรงหน้าหลังคือ หมายเลข 130 ที่ท้ายรถมีตัวอักษรระบุชื่อเล่นของรถคันนี้ว่า Little Bastard ชื่อนี้ Bill Hickman ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนทางด้านภาษาในภาพยนตร์เรื่อง Giant ที่เจมส์ ดีน กำลังแสดงอยู่ในช่วงนั้นเป็นผู้ตั้งให้ รถ Porsche 550 Spyder คันนี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้สำหรับแข่งขันโดย George Barris (ผู้ออกแบบรถในภาพยนตร์เรื่อง Batman)


หลังจากการซื้อ Little Bastard ได้ไม่กี่วัน ก็มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง เจมส์ ดีน พบกับ Alec Guinness (ปัจจุบันคือ Sir Alec Guinness) ที่หน้าภัตตาคารแห่งหนึ่ง หลังจากที่ดีนได้แนะนำตัวกับกินเนสซึ่งเป็นนักแสดงอาวุโสกว่า เขาก็ได้อวดรถ Little Bastard คันใหม่เอี่ยมกับกินเนส



กิน เนสหันไปมองที่รถอยู่ครู่หนึ่งพร้อมๆ กับเห็นลางร้ายที่เกิดขึ้นกับรถคันนี้ และได้กล่าวกับดีนว่า ถ้าคุณขับรถคันนี้ในช่วงนี้จนถึงสัปดาห์หน้า คุณจะพบกับความตาย (คำพูดนี้กินเนสพูดในวันที่ 23 กันยายน 1950) หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เช้าตรู่วันที่ 30 กันยายน ปี 1955 ดีนและช่างเครื่องของเขา Rolf Wutherich ได้เตรียมรถ Little Bastard เพื่อเข้าร่วมการแข่งรถที่ Salinas, California เดิมทีนั้นเขาตั้งใจที่จะนำรถแข่งไป Salinas โดยใช้ Ford Country ลากไปกับรถพ่วง และไปพร้อมกับช่างภาพชื่อ Stanford Roth เพื่อบันทึกภาพเบื้องหลังการแข่งขัน ประมาณ 10.00 น. พ่อและลุงของดีนมาเยี่ยมและกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ประมาณ 13.00 น. ดีนตัดสินใจในนาทีสุดท้ายที่จะขับ Little Bastard ไปด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะทำความคุ้นเคยกับรถที่เขาเพิ่งจะซื้อมาด้วยนั่นเอง

ประมาณ 15.45 น. หลังจากการตรวสอบความเรียบร้อยของรถแข่ง ดีนและช่างเครื่อง Wutherich ก็ออกเดินทางจาก Bakersfild

ประมาณ 17.45 น. ระหว่างที่ขับมาด้วยความเร็วสูง ประมาณ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่แยกใกล้เมือง Cholame มี รถเก๋งฟอร์ดคันหนึ่งขับตัดทางแยกมาด้วยความเร็วสูงเช่นกัน ทั้งคู่ไม่สามารถควบคุมรถได้จึงประสานงากันอย่างแรง รถตกไปที่ข้างทาง ดีนเสียชีวิตในอีก 11 นาทีต่อมา คือเวลา 17.59 น. คำพูดสุดท้ายของเขาคือ “เขาควรจะหยุด....เขามองเห็นเรา”  Rolf Wutherich ช่างเครื่องบาดเจ็บสาหัสแต่รอดมาได้ แต่เขาก็มาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เช่นกันในปี 1981 ที่ประเทศเยอรมันนี


รถ Little Bastard พัง ยับเยินกลายเป็นซากรถและกลายเป็นรถอาถรรพ์ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เจมส์ ดีน ดาราชื่อก้องโลกต้องเสียชีวิตเท่านั้น รถคันนี้ยังทำให้อีกหลายคนต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในอีกหลายปีต่อมา

George Barris ซึ่งเป็นผู้ปรับแต่งรถแข่งคันนี้ เป็นผู้ที่ซื้อซากรถคันนี้เอาไว้ หลังจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ ตำรวจทางหลวง California Highway Patrol ได้ขอยืมซากรถคันนี้เพื่อไปใช้ในการรณรงค์การลดอุบัติเหตุบนทางหลวง ในช่วงปี 1958-1959 แต่ ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึงบ่อยครั้ง เช่น ซากรถได้เลื่อนไถลไปทับเด็กนักเรียนในระหว่างการขนย้ายที่โรงเรียนใน Sacramento และท้ายที่สุดในปี 1960 หลังจากที่ตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียส่งซากรถ Little Bastard กลับคืนให้เจ้าของคือ George Barris ที่ลอสแองเจลีส ซากรถคันนี้ก็ได้หายไปอย่างลึกลับไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยจนปัจจุบัน



                                                                         
ทีนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของรถเหล็กของ James Dean กันบ้างครับ ผมเข้าใจว่า Brumm แห่งอิตาลี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตรถเหล็กในประวัติศาสตร์ได้ผลิต Porsche 550RS (America 1954) เพื่อระลึกถึง James Dean โดยเฉพาะถึงแม้จะไม่ระบุไว้ที่กล่องหรือตัวรถ แต่การที่ตัวรถมีสีบรอนซ์เงิน หมายเลข 130 และข้อความ “Little Bastard” และเพลทหมายเลข 2Z77767 บนกระโปรงหลัง นั่นหมายถึงรถของเจมส์ดีนซึ่งเป็นพาหนะที่นำเขาไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิตนั่นเอง

Brumm ผลิตรถเหล็กคันนี้ในอิตาลี ในปี 2006 เป็นหนึ่งในบริษัทรถเหล็กจำนวนไม่มากที่ยังคงผลิตในโรงงานดั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งก่อตั้งมาตังแต่ปี 1970 โดยมีอัตราส่วน 1:43 ตัวรถยาว 8.7 ซม. กว้าง 3.5 ซม. สูง 2.2 ซม. ตัวรถสีบรอนซ์เงิน เบาะนั่งสีแดง เลียนแบบรถของเจมส์ดีนทุกรายละเอียด




ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ทำด้วยโลหะ เช่น ใต้ท้องสีดำ ดุมล้อสีเงิน ล้อยางถอดได้ พวงมาลัยและคันเกียร์โครเมี่ยม
ครับนับเป็นรถเหล็กที่น่าสะสมอีกคันหนึ่ง เพราะมีเรื่องราวน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ ของเจมส์ดีน ดาราอมตะที่โลกไม่เคยลืม สำหรับท่านที่สนใจรถเจมส์ดีนอยากมีไว้สะสม ไปที่ร้านผม toy2hand_shop ได้เลยครับ


           


Wednesday 30 June 2010

BRUMM 1/43 WORLD CUP FIAT CELEBRATION 2006

บ้านเราอาจจะไม่คุ้นกับชื่อรถยี่ห้อง Brumm กันสักเท่าไร Brumm เป็นบริษัทผลิตรถสัญชาติอิตาลี ก่อตั้งในปี 1972 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า “Brumm di Milano” ซึ่งความหมายก็คือ “รถแท๊กซี่แห่งมิลาน” ผู้ก่อตั้งบริษัทคือ Reno Tattarletti ,Virginio Bianchi และ Emilio Molteni ซึ่งทั้งสามคนนี้เคยทำงานด้วยกันอยู่ในบริษัทผลิตรถโมเดลยี่ห้อ Rio รถคันแรกที่พวกเขาผลิตก็คือรถม้า Horse-Drawn ซึ่งอยู่ใน Line Steam-Power นอกจากนั้นก็เป็นพวกรถมอเตอร์ไซด์ รถขนส่งน้ำมัน เป็นต้น


แต่ปัจจุบัน Brumm ได้ลงมาเล่นโมเดลรถทั่วไปและเป็นสเกล 1:43 เท่านั้นนะครับ ด้วยความที่เป็นรถโมเดลสัญชาติอิตาลีซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบระดับโลกอยู่แล้ว รถโมเดลของ Brumm แต่ละคันจะสวยและเนี้ยบมากครับ
ที่ผมเอามาให้ดูกันนี้เพื่อเข้าบรรยากาศฟุตบอลโลก Brumm ได้ผลิตโมเดลรถ Fiat Panda เพื่อเฉลิมฉลองเมื่อคราวชนะฟุตบอลโลก ปี 2006 เป็นรถอิตาเลียนที่แฝงอารมณ์ขันของคนอิตาเลียนน่ารักทีเดียว รถเปิด sun roof ที่ตลกก็คือคุณสุภาพสตรีที่ยืนโผล่ออกมาจากซันรูฟดันเลิกเสื้อขึ้นมาจนหน้าอกหน้าใจโผล่แพลมๆ คนขับรถตัวบึกบึนชูกำปั้นหรา ตัว figures ระบายสีด้วยมือครับ ฝากระโปรงหน้ารถทาเป็นสีธงชาติตัวรถวางอยู่บนแท่น ด้านหลังเป็นฉากคนอิตาเลียนที่ออกมาร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งนี้

Saturday 4 July 2009

PORSCHE 550 RS - LITTLE BASTARD ของ JAMES DEEN

รถเหล็ก Brumm No.R234 Porsche 550 RS (America 1954) ผลิตในอิตาลี ความยาว 8.7 ซม. กว้าง 3.5 ซม. สูง 2.2 ซม. อัตราส่วน 1:43 Brumm เป็นบริษัทผลิตรถเหล็กเก่าแก่ของอิตาลี และยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ยังคงผลิตชิ้นงานอยู่ในแหล่งผลิตดั้งเดิม


รถจริงของ Porse 550 RS โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวรถสีบรอนซ์เงินที่มีหมายเลข 130 และข้อความที่ท้ายรถ "LITTLE BASTARD" เหนือข้อความนี้มีเพลทหมายเลข 2Z77767 เป็นรถที่บรรดาแฟนๆ ของ James Deen ดาราวัยรุ่นชื่อดังในยุค 1950 รู้จักกันดี เพราะเป็นรถที่นำเขาไปสู่จุดจบก่อนวัยอันควร อ่านรายละเอียด เจมส์ ดีนกับรถพอร์ช 550 RS ได้ที่นี่ครับ

รถเหล็ก Porsche 550 RS คันนี้สีบรอนซ์เงิน ทำเลียนแบบรถของเจมส์ ดีน ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ทำด้วยโลหะ ใต้ท้องโลหะสีดำ ล้อยางถอดได้ ดุมล้อโลหะ เบาะนั่งสีแดง พวงมาลัยและคันเกียร์โครเมี่ยม กระจกหน้าใส ตัวรถหนาและน้ำหนักดีมากครับ บรรจุในกล่องโชว์และกล่องกระดาษภายนอกของ Brumm