Friday, 27 August 2010

รถจิ๊ปอ้วนผอมจอมตลก





รถเหล็ก Gate – Laurel and Hardy Jeep MB ผลิตโดย Gateway Global Inc. USA. ในจีน โดยได้รับอนุญาตจาก Larry Harmon Pictures และ Daimler Chrysler ปี 2001 ความยาว 10.7 ซม. (1:32)

ตัวรถจริงของ Jeep MB ผลิตในช่วงปี 1941-1945 ประมาณ 640,000 คัน ส่วนตัวการ์ตูนที่นั่งอยู่บนรถในชุดทหารเรือนั้นคือ Laurel (คนผอม) Hardy (คนอ้วน) ดาราภาพยนตร์ตลกคู่ที่มีชื่อเสียงในช่วงปี 1930-1940 ไทยรู้จักกันในชื่อ อ้วนผอมจอมตลกฟิกเกอร์ที่นั่งอยู่บนรถ Jeep คันนี้เป็นอ้วนผอมในเวอร์ชั่นการ์ตูนครับ

รถเหล็ก Jeep Willys รุ่น MB คันนี้มีสีเขียวทหาร ใต้ท้องหล่อนูนช่วงล่างของรถ ล้อยางจริงถอดได้ มียางอะไหล่ และถังน้ำมันสำรองด้านหลัง กระจกหน้าพับได้ ฝากระโปรงเปิด-ปิดได้ ภายในมีรายละเอียดของเครื่องยนต์ บรรจุในกล่อง

Sunday, 22 August 2010

พาไปดูรถเก่าๆ แปลก BMW ISETTA 300



เปลี่ยนบรรยากาศมาดูรถแปลกๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเห็นกันบ้าง ผมไปถ่ายมาจากเจษฎาเทคนิคมิวเซียม ใครมีโอกาสก็ลองแวะไปดูกันนะครับ มีรถเก่าๆ สวยๆ มากมาย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ใกล้กรุงเทพแค่นี้เอง รถที่ผมถ่ายมาให้ดูคือรถ BMW Isetta 300 เครื่องยนตร์ 1 สูบ ขนาด 300 cc มีกำลัง 13 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลิตที่ประเทศเยอรมันนี ปี 1955-1957 เป็นรถที่รัฐบาลเยอรมันนำมาใช้เป็นรถตำรวจตรวจการ ใช้ชื่อว่า "Polizie Niderachen" เนื่องจาก BMW Isetta 300 ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนทั่วไปในการใช้งานที่เหมาะสมกับภูมิประเทศ มีความคล่องตัวในการขับขี่ เหมาะกับพื้นที่แคบที่รถใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง และทำความเร็วได้ดี ทำให้เป็นที่ยอมรับของทางการเยอรมัน และนำมาประจำการในการตรวจความเรียบร้อยของเมืองหลวง

Saturday, 21 August 2010

VANGUARDS: VAUXHALL CRESTA RALLYE MONTE CARLO



รถเหล็ก Vanguards No.VA 06410 – Vauxhall Cresta Rallye Monte Carlo ผลิตโดย Corgi Classic Ltd. Great Britain ในจีน ปี 2005 ความยาว 10.3 ซม. (1:43) ผลิตจำนวนจำกัดโดยได้รับอนุญาตจาก Vauxhall Motor Company

การแข่งแรลลี่ Monte Carlo นับเป็นการแข่งแรลลี่ครั้งแรกในโลก และมีความยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกรายการหนึ่ง รถและนักแข่งรถมากมายหลายยี่ห้อที่เข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ รถมินิที่เรารู้จักกันดี และ Vauxhall รุ่น Cresta คันนี้ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันในยุคทศวรรษที่ 60 ด้วย

รถเหล็ก Vauxhall Cresta คันนี้สีครีม-น้ำตาล Tempa หมายเลขรถที่สองข้างประตูคือ หมายเลข “121” มีเพลท Monte Carlo บนฝากระโปรงหน้าและด้านท้ายรถ มีไฟสปอร์ทไลท์บนหลังคา ไฟหน้าคริสตัล มีไฟสปอร์ทไลท์ 2 ดวงหน้า กระจังรถโครเมี่ยม กันชนหน้า-หลังโครเมี่ยม กระจกใส ภายในสีดำ พวงมาลัยสีเทา กระจกมองหลังภายในห้องโดยสารโครเมี่ยม ก้านปัดน้ำฝนโลหะ ใต้ท้องโลหะสีดำ ล้อยางถอดได้ มีรับประกันการผลิตจำนวนจำกัด คันนี้เป็นคันที่ 644 จากจำนวน 3010 คันทั่วโลกและ Catalog สะสมคะแนน

Thursday, 12 August 2010

เรื่องธรรมดาของรถ TAXI ที่ไม่ธรรมดา

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม ปี 1999 บริษัทจัดการประมูลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คือ Sotheby’s Auction House ได้เปิดประมูลรถ Checker Taxi รุ่น Classic A9 คันสุดท้ายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารชื่อ “Janie” ราคาสูงสุดที่มีผู้ประมูลไปคือ 134,500 ดอลล่าร์สหรัฐ (4,787,500 บาท) ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมครับสำหรับรถแท็กซี่เก่าๆ ที่วิ่งมาแล้ว 994,050 ไมล์ หรือเท่ากับวิ่งรอบโลกมาแล้ว 40 รอบ


เรื่องราวของรถแท็กซี่ Checker สีเหลืองสดที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนิวยอร์ค สหรํฐอเมริกา เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1914 Morris Markin ชายหนุ่มผู้อพยพชาวรัสเซีย หนีความยากจนมาจากบ้านเกิด โดยเริ่มต้นได้รับจ้างตัดเย็บกางเกงขายาวโหลให้กับโรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ด้วยความมุมานะ Markin เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง เขาได้ซื้อโรงงานประกอบรถแท็กซี่เก่าๆ ซึ่งผลิตแท็กซี่ให้กับบริษัท Checker ซึ่งอยู่ที่เมืองชิคาโก เขาได้เริ่มยุคใหม่ให้กับ Checker Taxi ด้วยการผลิตรถ Checker Model H2 ใช้เครื่องยนต์ BUDA 4 สูบที่เมือง Kalamazoo รัฐมิชิแกน ในปี 1922 ได้ปรับปรุงที่นั่งภายในให้สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารมากขึ้น ทำให้ได้รับความนิยมใช้บริการมากขึ้น



หลังจากนั้นก็ได้ผลิตรถ Taxi Checker รุ่นอื่นๆ ตามมา คือ Model E ปี 1923-1924


Model F ปี 1925, Model K ปี 1928 ในช่วงเวลานั้น (ค.ศ.1928) เมืองนิวยอร์คซึ่งมีแท็กซี่ให้บริการประมาณ 21,000 คัน จะเป็นแท็กซี่ของ Checker เสียประมาณ 8,000 คันเลยทีเดียว

ปี 1929 Markin ได้ซื้อกิจการรถแท็กซี่ Yellow Cab จากบริษัทรถเช่า Hertz นำมารวมกับ Checker Cab และได้เปลี่ยนสีรถเป็นสีเหลืองและมีแถบคาดเป็นลายหมากรุกสีขาวดำข้างตัวถังตลอดมาจนปิดกิจการ Hertz เป็นบริษัทที่ใช้สีเหลืองสำหรับแท็กซี่เป็นบริษัทแรก โดยได้มีการทำศึกษาวิจัยพบว่า สีเหลืองเป็นสีที่ผู้ใช้บริการจะเห็นได้ชัดเจนที่สุด ปี 1929 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์เป็นเครื่อง BUDA 6 สูบ 61.5 แรงม้า





ปี 1932 เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้งให้มีกำลังเพิ่มขึ้นอีกเป็น 98 แรงม้า และได้ผลิตรุ่น Model T ยาวพิเศษ เปิดประตูได้ทั้งสองข้าง ครั้งแรกใช้สำหรับบรรทุกทีมนักฟุตบอล (American Football) ได้ทั้งทีม ซึ่งได้รับความนิยมมาก เรียกว่า Aerobus

จากนั้นก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานของ Checker หยุดผลิตแท็กซี่ชั่วคราว หันไปรับจ้างกองทัพผลิตรถ Jeep Willy สำหรับใช้ในราชการสงคราม


จนกระทั่งสงครามสงบ ก็ได้มีการออกแบบ Checker Taxi ขึ้นอีก 3 แบบคือ Model B, C และ D แต่ทั้งสามแบบไม่ผ่านการทำต้นแบบรถ Taxi Checker ยุคใหม่หลังสงครามที่ผ่านการทำต้นแบบคือรุ่น A2 ซึ่งมีห้องโดยสารสำหรับ 7 ที่นั่ง




ในช่วงปี 1950-1954 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรุ่น A3 ถึง A7 รถยุคนี้จะมีพื้นรถในห้องโดยสารเรียบเสมอกันทั้งหมด ซึ่งทำให้ง่ายต่อการขึ้นลง และการทำความสะอาด มีการเปลี่ยนเป็น Model A8 อีกครั้งในปี 1958 จนมาถึง รุ่นที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นคลาสสิคสำหรับรถ Taxi Checker (คันที่ประมูลได้ถึง 4 ล้านกว่านั่นไงครับ)

รุ่นนี้คือ Classic A9 รถ Checker รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทุกคนที่นิวยอร์คหรือเมืองใหญ่ๆ ในอเมริการู้จักและจำได้ เพราะว่าส่วนหนึ่งนั้น มันเป็นแท็กซี่ที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องดังคือ “Taxi Driver” นั่นเองครับ



A9 เริ่มผลิตในปี 1960 รุ่นนี้มีที่นั่งพิเศษพับได้สำหรับผู้โดยสารคนที่ 8



จากนั้นรุ่น A10 ถึง A12 ก็ถูกปรับปรุงพัฒนาในรายละเอียด แต่ยังคงใช้บอดี้เดิม เช่น เปลี่ยน เครื่องยนต์เป็น 6 สูบ 3.7 ลิตร

A9 มีช่วงการผลิตที่ยาวนานมาก โดยผลิตอยู่ราวๆ 24 ปี โดยมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม ยกเว้นการเปลี่ยนแปลงกันชนหน้าจากเหล็กชุบโครเมี่ยมวาววับเป็นอลูมิเนียมสีด้าน ในปี 1975 ซึ่งสามารถทนต่อการชนในระดับ 10 ไมล์/ชม. โดยไม่มีอะไรเสียหาย




หลังจาก Markin ผู้พ่อเสียชีวิตลงในปี 1970 David Markin ลูกชาย ก็ได้ดำเนินกิจการ Checker Taxi ต่อมา จนกระทั่งบริษัทได้ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 1982 หลังจากนั้นโรงงานของ Checker ได้เปลี่ยนไปผลิตรถพ่วงและโครงรถโดยสารของบริษัท General Motor จนกระทั่งปัจจุบัน
และนี่คือรถต้นแบบ Taxi ที่ออกแบบโดยสถาบัน New York City Cab Design Fuses ผสมผสานรถยุคปี 1950 ของ Checker กับยุคปัจจุบัน



สำหรับรถเหล็กจำลองของ Checker Taxi ก็มีผู้ผลิตหลายราย หลายขนาด เช่น ขนาด 1:34 ของ Hatotoy, 1:43 ของ IXO, 1:18 ของ Sun Star



1:64 ของ Matchbox



1:24 ของ Franklin Mint แม้กระทั่งรถยุคทศวรรษ 30 ของ Checker ก็ยังมีการผลิตออกมาเป็นรถสังกะสีครับ

Tuesday, 10 August 2010

1940 FORD PICKUP

รถที่นำมาให้ชมกันในวันนี้คือ รถบรรทุกฟอร์ดขนาดครึ่งตัน ในปี 1940 ได้รับการแปลงโฉมให้สวยงามมากกว่ารุ่นก่อนๆ มากทีเดียวในหลายจุด นับตั้งแต่รุ่นที่ผลิตในปี 1932-1935-1939 อย่างเช่น ฝากระโปรงหน้า โคมไฟที่ฝังเข้าไปในบังโคลนหน้า รวมทั้งกระจังหน้าทรงเฉียบ และเครื่องยนต์ V8 ก็มีตั้งแต่ขนาด 136 ลบน. 60 แรงม้า จนถึง 239 ลบน. และเมื่อ Ford Pickup ปี 1940 ถูกนำมาผลิตเป็นรถเหล็กก็จะมีความสวยงามมาก โดยเฉพาะเมื่อได้ผู้มีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตรถเหล็กอย่าง “Matchbox” ซึ่งได้ผลิตขึ้นเป็นรุ่นพิเศษ พิถีพิถัน ด้วยสเกลขนาด 1/43 ที่แม่นยำ



รถเหล็ก Ford Pickup 1940 คันนี้เป็น Models of Yesteryear No. YTC03-M -1940 Ford Pickup ผลิตโดย Matchbox Toys (USA) LTD โดยได้รับอนุญาตจาก Ford Motor Company ปี 1998 ความยาว 10.8 ซม. สีเลือดหมู ซึ่งเป็นสียอดนิยมในยุคนั้น กันชนหน้า ฝาถังน้ำมัน คิ้วกระจังหน้า มือจับ ฝาครอบล้อโครเมี่ยม กระจกใส เบาะที่นั่งสีเขียวอ่อน พวงมาลัยสีดำ ฝากระบะท้ายปิด-เปิดได้ ล้อยางขอบขาวถอดได้ พร้อมยางอะไหล่ ใต้ท้องโลหะ พร้อมช่วงล่างหล่อลอยตัว เช่น แหนบ ท่อไอเสีย เพลา และเครื่องยนต์ โดยรวมแล้วสวยงามมากสำหรับผู้ชอบรถเหล็กในยุคนี้ และหนา-หนัก ได้อารมณ์รถเหล็กมากครับ สภาพใหม่ พร้อมใบรับประกันว่าเป็นของแท้ เซ็นชื่อโดย John L. Simon แห่ง Matchbox Collectibles และประวัติของรถรุ่นนี้ที่ด้านหลังของการ์ดใบนี้

Thursday, 22 July 2010

รถบัส 2 ชั้นแห่งมหานครลอนดอน

วันนี้ไม่พูดอะไรมาก เอาว่าผมมารวบรวมรถบัส 2 ชั้นเท่าที่ผมมีรูปมาฝากกันดีกว่าครับ


London Transport Routemaster Bus ของ Corgi สเกล 1:50 ผลิตระหว่างปี 1964-1975


London Routemaster "Outspan Bus" ของ Corgi สเกล 1:50 ผลิตระหว่างปี 1964-1975


คันนี้เป็น London Bus ของ Corgi สเกล 1:64

Londoner Bus ของ Matchbox Superfast สเกล 1:64 ผลิตในปี 1972

London Bus "Matchbox Series" ของ Matchbox ร่น Regular Wheels ผลิตในปี 1961


London Bus "Longlife" ของ Matchbox รุ่น Regular Wheels ผลิตในปี 1965

Damlier Bus ของ Matchbox รุ่น Regular Wheels No.74 ผลิตในปี 1966

Saturday, 17 July 2010

รถบัส 2 ชั้น 1932 AEC REGENT DOUBLE DECK BUS



คันนี้คือรถเหล็ก Lledo Days Gone No.15030 – 1932 AEC Regent Double Deck Bus (Van Houten’s Cocoa) ผลิตโดย Lledo PLC. ในอังกฤษ ปี 1994 ความยาว 8.6 ซม.

รถเหล็ก Days Gone ซึ่งเป็นรถ Bus หมายเลข 15 ตัวถังนี้เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1985 พิมพ์ Tempa ข้างรถ “Admiral’s Cup”, Lledo ผลิตรถเหล็กรุ่นนี้โดยมีสีและแบบต่างๆ มากกว่า 115 แบบ แบบที่มีราคาสูงคือแบบที่พิมพ์ข้างรถ “Fleetwood 150 Celebrations 1836-1986” (กว่า 5,000 บาท)

สำหรับรถเหล็ก Days Gone No.15030 คันนี้ ตัวถังและหลังคาโลหะ สีน้ำเงินเข้ม พิมพ์ Tempa ข้างรถ “Van Houten’s Coach”, Best & Goes Farthest ใต้ท้องโลหะสีดำ ภายในสีครีม ยางล้อถอดได้ กระจังหน้าโครเมี่ยม