Friday, 26 November 2021

รถแห่งประวัติศาสตร์ในวันลอบสังหาร



นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ เคนเนดี้ เมื่อปี 1961  เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้ไม่มีโรงงานผลิตโมเดลใดกล้าที่จะผลิตรถ Lincoln Continental X-100 ซึ่งเป็นรถคันที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้ถูกลอบสังหารนั่ง ออกมาเลย เหมือนกับเป็นอาถรรพ์หรือข้อต้องห้าม จนกระทั่ง 39 ปีต่อมา ในปี 1999 ผู้ผลิตรถโมเดลชื่อดัง Minichamps แห่งประเทศเยอรมันนีก็ได้ทำลายข้อห้ามนั้นลง



ผู้อ่านที่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป คงจะจำเหตุการณ์ช็อกโลกในครั้งนั้นได้ ส่วนผู้ที่อายุน้อยกว่านี้คงต้องเล่าให้ฟังสักนิดนึงนะครับ การลอบสังหารประธานาธิบดีหนุ่มที่มีชื่อเสียงและผู้คนรักใคร่ชอบพอมากที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐและของโลกเสรี เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ระหว่างที่ท่านประธานาธิบดีนั่งรถเปิดประทุน Lincoln Continental X-100 ซึ่งสร้างเป็นพิเศษในปี 1961 บนถนนในเมืองดัลลัส ท่านถูกยิง 3 นัด โดยมือปืนที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 6 ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง มือปืนถุกจับได้ชื่อ Lee Harvey Oswald และในวันต่อมาเขาก็ถูกฆ่าโดยมือปืนแก๊งค์มาเฟียชื่อ Jack Ruby หลังจากนั้นก็ไม่เคยจับมือปืนคนอื่นๆ ได้เลย และ Oswald เป็นมือปืนคนเดียวที่ถูกจับได้และก็ไม่แน่ว่าจะเป็นฆาตกรตัวจริงหรือเปล่า เพราะตายเสียก่อนที่การสอบสวนจะเสร็จสิ้นลง ทั้งๆ ที่การสอบสวนและมุมยิงระบุว่ามีคนยิงมากกว่า 1 คน

  



สำหรับเรื่องที่น่าสนใจในแวดวงของผู้ที่สะสมรถจำลอง นั่นก็คือ รถที่ท่านประธานาธิบดีเคนเนดี้ใช้นั่งในวันที่ถูกลอบสังหาร รถคันนี้คือ Lincoln Continental X-100 ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ เช่นมีโทรศัพท์เคลื่อนที่บนรถถึง 2 เครื่อง (สมัยนั้นถือว่าสุดยอดแล้วครับ) ที่นั่งพิเศษของประธานาธิบดีซึ่งสามารถยกขึ้นลงได้ เพื่อให้ประชาชนเห็นท่านได้ชัดเจน ที่ยืนพร้อมมือจับส่วนหลังสำหรับตำรวจลับยืนคุ้มกัน 2 คน ไฟพิเศษสำหรับส่องสว่างในห้องโดยสาร แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้มีการทำหลังคาโปร่งใสกันกระสุนขึ้นมาครอบและยางรถพิเศษ ถังน้ำมันที่ไม่มีการระเบิด เครื่องยนต์ใหม่มีกำลังมากขึ้น ระบบการสื่อสารปรับปรุงใหม่เพื่อป้องกันการลอบสังหาร รถคันนี้ได้ใช้ต่อมาในสมัยของประธานาธิบดีจอห์นสัน, นิกสัน และประธานาธิบดีคาร์เตอร์ และปลดประจำการในปี 1977

 





ทีนี้มาว่ากันถึงรถโมเดลคันนี้กันบ้าง รถจำลอง Lincoln Continental X-100 สร้างขึ้นในปี 1999 โดยบริษัท Paul’s Model Art ภายใต้ชื่อ Minichamps ผู้ผลิตรถจำลองที่มีชื่อมากบริษัทหนึ่ง อัตราส่วน 1:43 ความยาวตัวรถ 15 ซม. กว้าง 4.7 ซม. หนัก 440 กรัม (รวมกล่อง) มีรายละเอียดต่างๆ อยู่ในขั้นดีมาก (หนังสือ Model Collector ฉบับที่ 11 ปี 1999 ให้คะแนนสูงถึง 8.5 ทีเดียวครับ) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ไม่มีรถจำลองคันไหนสมบูรณ์แบบไม่เว้นแม้แต่คันนี้ มีบางอย่างที่ไม่ค่อยถูกต้อง เช่น ไม่มีโคมไฟพิเศษที่อยู่ใกล้ๆ กับกระจกส่องข้างทั้งสองข้าง รายละเอียดที่กระจังหน้ารถน่าจะทำให้ดีกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นรถจำลองคันหนึ่งที่ได้บันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของโลกเอาไว้ ถ้าประธานาธิบดีเคนเนดี้ไม่ถูกสังหารในรถคันนี้เราก็ไม่ทราบว่าประวัติศาสตร์ของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปทางใดบ้าง รถโมเดลคันนี้จะถูกสร้างขึ้นมาให้เราได้ชื่นชมกันหรือไม่ และรถ 1964 Lincoln Continental “QUICK F/X” อาจจะไม่ได้สร้างขึ้น เพราะวัวยังไม่หาย คอกก็ยังจะไม่ถูกล้อม

Thursday, 18 November 2021

18 พ.ย. วันเกิด MICKEY MOUSE

          Happy Birthday เจ้าหนู Mickey Mouse 18 พ.ย เป็นวันเกิดของเขาครับ หนูฝรั่งที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งคู่ คู่แรกคือ Mickey Mouse กับ Minnie Mouse คู่ที่สองเป็นคู่หนูกับแมวคือ Tom and Jerry

          Mickey Mouse นั้น ปรากฏบนจอเงินครั้งแรกที่เมือง New York วันที่ 18 ธันวาคม ปี 1928 ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Steamboat Willie ซึ่งถือเป็นวันเกิดของเขาด้วย


          Mickey Mouse ในยุคแรกนั้นมีรูปร่างไม่เหมือนกับในปัจจุบันที่เราคุ้นตา Mickey Mouse ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันนั้นวาดในปี 1939 แน่นอนครับโดย Walt Disney และการพากษ์เสียงของ Mickey ในครั้งแรกนั้นก็พากษ์โดย Walt Disney เช่นเดียวกัน



          ต่อมาจึงได้เปลี่ยนเป็นเสียงของ Jim MacDonald และผู้พากษ์เสียงในปัจจุบันคือ Wayne Allwine แน่นอนครับไม่ต้องบอกว่า Mickey Mouse นั้นดังแค่ไหนมีสินค้าต่างๆ ที่ผลิตโดยมีภาพทั้ง 2 มิติ 3 มิติ นับพันนับหมื่นรายการ รวมทั้งของเล่นต่างๆ ด้วย


          คู่ของ Mickey Mouse คือ Minnie Mouse ถือกำเนิดขึ้นไม่นานหลังจาก Mickey Mouse โดยเป็นการ์ตูนประกอบ 1 ใน 73 ตัว ที่มี Mickey และ Pluto เป็นดารานำ จนกระทั่งในปี 1986 Disney ก็เปิดตัว Minnie Mouse อย่างเป็นทางการ โดยประกาศให้ปี 1986 เป็นปี Minnie’s Year ผู้ที่พากษ์เสียง Minnie เป็นครั้งแรกคือ Marcellite Garner ส่วนผู้พากษ์ปัจจุบันคือ Russi Taylor



          ส่วนเจ้าหนู Jerry คู่กัดของ Tom ที่มักจะเสียท่าให้กับ Jerry อยู่เสมอ ถือกำเนิดในราวปี 1937 ที่ MGM Studio โดยคู่หู 2 คนคือ Josept Barbera และ Bill Hanna ผู้ซึ่งต่อมาได้ร่วมกันสร้าง Flintstone, Scooby-Doo จนได้ออสการ์ถึง 7 ตัว สงครามระหว่างหนูกับแมวหรือ Tom and Jerry นี้ เป็นการ์ตูนสั้นสร้างขึ้นมากกว่า 200 ตอน มีผุู้วาดต่อๆ กันมาแล้วกว่า 5 คน เช่น Chuck Jones, Fred Quimby ส่วนผู้พากษ์เสียงในยุคแรกๆ คือ Daws Butler และทีมงาน จนทุกวันนี้สถานีโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ก็ยังคงเสนอเรื่องราวของหนูคลาสสิคทั้ง 3 ตัว เด็กๆหรือผู้ที่เคยเป็นเด้กก็ยังคงมีความสุขสนุกสนานเมื่อได้ชมการ์ตูนหนูทั้ง 3 ตัวอยู่เสมอ



Josept Barbera & Bill Hanna

          ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องของเล่นและรถเหล็กที่เกี่ยวข้องกับหนูทั้ง 3 ตัวนี้กันครับ ของเล่นในยุคแรกๆ ของหนูทั้ง 3 ตัวน่าจะเป็นพวกตุ๊กตา, ของเล่นไม้ ของเล่นสังกะสี แล้วก็มาถึงยุคของรถเหล็กครับ



          นี่เป็นตุ๊กตาผ้ามิคกี้เมาส์สูง 19 นิ้ว ที่ผลิตขึ้นประมาณปี 1930 ในสหรัฐอเมริกา ราคาสำหรับนักสะสมที่ประมูลไปหลังสุดคือ 7,150 เหรียญสหรัฐ



          นี่เป็นของเล่นสังกะสีไขลาน Mickey Mouse กับรถเข็นดนตรี Hurdy Gurdy และมี Minie Mouse เต้นรำอยู่ข้างบน ผลิตในปี 1931 โดย Disler มีขนาด 20 x 15 ซม. เคยถูกประมูลไปในราคาสูงสุด 13,200 เหรียญสหรัฐ ส่วนที่อยู่คู่กันก็เป็นรถสังกะสีไขลานผลิตในญี่ปุ่นปี 1970 โดย Masudaya

          สำหรับของเล่นของหนู Jerry นั้น ค่อนข้างจะหายากครับ ที่นำมาให้ดูนี้ก็เป็น Music Box สังกะสีของ Tom and Jerry (ไม่มีข้อมูล)



          อีกภาพหนึ่งก็เป็นของเล่นไขลาน Tom and Jerry ผลิตโดย Marx ในปี 1970 ครับ





          ส่วนรถเหล็ก Diecast ของหนูตัวแรกในโลกน่าจะผลิตโดย Corgi ในปี 1971 (ขวามือ) คือ No.1014A Jerry’s Banger ๖ถ้าผู้อ่านท่านใดทราบว่ามีการผลิตรถเหล็กที่มีตัวการ์ตูนหนูก่อนคันนี้เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็จะดีไม่น้อยครับ) และต่อมา (ซ้ายมือ) ในปี 1980 Corgi ก็ผลิต No.38B Jerry’s Banger ความยาว 7.5 ซม. ทั้งสองคันนี้ผลิตในอังกฤษโดยได้รับอนุญาตจาก MGM ครั




          ส่วนรถเหล็กของ Mickey และ Minnie นั้น Matchbox ผลิตขึ้นในปี 1979 ที่ประเทศฮ่องกง ผลิตขึ้นโดยได้รับอนุญาตจาก Walt Disney



          WD1-A เป็นรถดับเพลิงมี Mickey เป็นคนขับ ความยาว 7.7 ซม. ส่วนอีกคัน WD 4A เป็น Minnie ขับรถเก๋งความยาว 7.4 ซม.

         


 ในภาพนี้เป็นกลุ่มรถเหล็ก Mickey และ Minnie Mouse ที่ผลิตโดย Tomy ในช่วงปี 1990-2003 ผลิตในประเทศจีน โดยทุกคันผลิตโดยได้รับอนุญาตจาก Disney ความยาวประมาณ 6.5 - 7.5 ซม. เป็นรถแบบต่างๆ บางคันก็จำลองมาจากรถจริง เช่น โฟล์กเต่า, รถรุ่นเก่ายุค 1930, รถดับเพลิง, รถญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน, รถตำรวจ พร้อม Figure ที่นั่งบนรถและที่เป็นตัวหุ่นที่แยกออกจากตัวรถ




          โปรดสังเกตว่ารถเหล็กจากการ์ตูนนี้มักจะบอกขนาดเป็นอัตราส่วนไม่ได้เพราะไม่มีของจริงให้อ้างอิง โดยมากมักจะสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ

          มีสิ่งที่น่าจะได้จากบทความในตอนนี้ก็คือ ถ้าคุณจะเล่นรถเหล็กจากการ์ตูน ควรจะต้องซื้อรถเหล็กที่ผลิตโดยได้รับอนุญาต (Copyright) จากผุ้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการ์ตูนนั้นๆ เสมอ อาจจะหล่อโลหะหรือพิมพ์ที่ใต้ท้องรถ หรืออย่างน้อยที่สุดต้องพิมพ์บนกล่อง ครับก็เห็นจะต้องจบเรื่องหนูๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของอีหนูกันไว้เพียงเท่านี้ครับ 

Wednesday, 17 November 2021

รถเหล็กจากภาพยนตร์คันแรกของ Corgi หรือของโลก



รถเหล็กจากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 007 ตอน “Goldfinger” ของ Corgi นับว่าเป็นผู้บุกเบิกการผลิตรถเหล็กจากภาพยนตร์เป็นเจ้าแรก ในปี 1965 (ก่อนหน้านี้แทบจะไม่มีผู้ผลิตรถเหล็กจากภาพยนตร์มาก่อนเลย เท่าที่ผมพยายามค้นคว้าดูท่านผู้ใดทราบลองเขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ) รถเหล็กคันนี้นับเป็นรถคันที่ทำชื่อเสียงและทำเงินให้กับ Corgi มากที่สุด และทำให้ Corgi ยืนหยัดอยู่ในวงการรถเหล็กอยู่ได้จนทุกวันนี้ รถคันที่ว่านี้คือ Aston Martin DB5 เป็นรถเหล็กที่ทำเลียนแบบรถจากภาพยนตร์ดังในยุคนั้นคือ 007 ตอน “Goldfinger” ความยาว 9.6 มิลลิเมตร มีฟังค์ชั่นต่างๆ เหมือนในภาพยนตร์ เช่น ปืนกลที่ด้านหน้า, เกราะบังกระจกหลัง และที่สำคัญคือ กลไกสำหรับดีดเบาะหน้า พร้อมฟิคเกอร์คนขับ และเจมส์บอนด์ 007 ระบายสีด้วยมือ ใต้ท้องโลหะมีข้อความ 007 ล้อยางถอดได้ ดุมล้อโลหะ ตัวรถสืทอง กระจกใส ภายในสีแดง รถคันนี้ได้รับรางวัล “Toy of the Year 1965”  จากสมาคมการค้าของเล่นประเทศอังกฤษ ภายในเวลา 3 ปี รถเหล็กรุ่นนี้ขายได้มากกว่า 3 ล้านคัน




         


ในปี 1968 Corgi ก็ได้ออกรถ 007 Aston Martin รุ่นใหม่ (ในรูปด้านหลังคันสีทอง) โดยมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย (10.2 mm) สีเงินและเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานเพิ่มขึ้น เช่น ป้ายทะเบียนที่หมุนเปลี่ยนได้, ดุมล้อสังหาร และรถรุ่นนี้ได้กลายเป็นรุ่นที่หายากที่สุดของ 007 Aston Martin DB5 และราคาสูงกว่า 3 เท่าของรุ่นสีทอง ซึ่งออกในปี 1965

นับเป็นรถเหล็กที่มีคุณค่าน่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง เหนือกว่ารถเหล็กจากภาพยนตร์ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นวัสดุ, ฟังก์ชั่นการทำงาน ในปัจจุบันรถเหล็กจากภาพยนตร์ มักจะเป็นแค่รถรุ่นที่เหมือนกัน ไม่มีแม้แต่การระบุว่า มาจากภาพยนตร์เรื่องใด จะมีก็เพียงข้อความที่กล่องบรรจุเท่านั้นเอง

Tuesday, 16 November 2021

รถซีตรอง 2CV รถคลาสสิคของโลก

 รถซีตรอง 2CV นับเป็นรถคลาสสิคของโลกคันหนึ่งทีเดียวครับ เริ่มออกแบบในปี 1936 โดยมีโจทย์ที่ยุ่งยากแต่ดูเหมือนง่ายข้อหนึ่งคือ ต้องสามารถบรรทุกตะกร้าไข่ไก่แล้ววิ่งผ่านทุ่งนาที่ผ่านการไถเอาไว้โดยที่ไข่ไก่ไม่แตก ต้องเป็นรถที่ขับง่ายแม้แต่แม่บ้านในชนบทก็สามารถจะขับได้ กว่าจะออกแบบได้สำเร็จก็หลังสงครามโลกครับ คือในปี 1948 และเริ่มผลิตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนเลิกผลิตในปี 1990 โดยคันสุดท้ายผลิตจากโรงงานของซีตรองในประเทศโปรตุเกสเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ปี 1990 เวลา 16.00 น.


Citroen 2 CV, Corgi No.81435 เป็นรถรุ่นพิเศษที่ Corgi ผลิตให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ คือ Fina เมื่อปี 1993 ในอังกฤษ ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป แต่ผลิตสำหรับลูกค้าของ Fina เท่านั้น หลังคาสีขาว กระจกใส ภายในสีดำ ใต้ท้องสีดำ สกรีนป้ายทะเบียน “2CV1”



รถเหล็ก Corgi No.53455 Citroen 2 CV6 ผลิตในอังกฤษ ปี 1985 ความยาว 7.4 ซม. สีแดง ลายดอกไม้ (ยุคฮิปปี้) กระจกใส ภายในสีขาว ใต้ท้องสีดำ ประตูหน้า 2 ข้างเปิด-ปิดได้ 



รถเหล็ก Corgi Cameo No.80772 Citroen 2 CV เป็นรถในชุด The Sixties Collection ผลิตในอังกฤษ ปี 1993ความยาว 7.5 ซม. สีเหลือง กระจกใส ภายในสีเทา ใต้ท้องสีเทา ทะเบียนรถ "2CV" หน้า-หลัง ไฟหน้าสีบรอนซ์เงิน 

Monday, 15 November 2021

Chitty Chitty Bang Bang หนังเด็กยอดนิยม/รถเหล็กยอดนิยม


          ดูรูปข้างบนนี้แล้วอย่าเข้าใจผิดนะครับว่า รถในหนังเรื่องนี้บินผ่านกรุงเทพมหานครของเรา รถในหนังไม่ได้บินผ่านครับ แต่รถเหล็กบินผ่านครับ อยู่ในกล่องบนเครื่อง Air Cargo เมื่อหลายปีมาแล้ว สมัยที่ยังไม่มีระบบการประมูลจาก Website เหมือนในปัจจุบัน เพื่อนนักสะสมชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทยที่รู้จักกับผู้เขียน ได้กรุณาประมูลให้จาก Vectis Model Aution ประเทศอังกฤษ ต้องขอขอบคุณไว้อีกครั้งหนึ่งครับ ที่ทำให้พวกได้มีโอกาสเห็นตัวจริงของรถเหล็กคันนี้


           Chitty Chitty Bang Bang ภาพยนตร์ที่ทำให้เกิดการผลิตรถเหล็กคันนี้ ใช้เวลาถ่ายทำ 1 ปีเต็มในอังกฤษ เมื่อปี 1967 และออกฉายในปี 1968 โดย วอลซ์ ดิสนีย์ สร้างจากนวนิยายของเอียน เฟลมมิงส์ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เขียนเรื่องเจมส์บอนด์ 007 นวนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ในปี 1964 ผู้แสดงนำคือ ดิกซ์ แวนไดค์ เป็นเรื่องราวการผจญภัยของครอบครัว Potts ซึ่งลูกชายถูกแกงค์ขโมยเด็กลักพาตัวไปขายที่ฝรั่งเศส จึงต้องตามหาลูกชายกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด ด้วยรถมหัศจรรย์ที่เหาะได้และแล่นในน้ำได้



               เวลาผ่านไปถึงกว่า 35 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงคว้าแชมป์หนังยอดนิยมสำหรับเด็ก ในปี 2003 จากการโหวตของพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กราว 8000 คน โดยการสำรวจของร้านเช่าวิดีโอ “Choices” ฮาเซล อาดิง โฆษกของร้านบอกว่า หนังเรื่องนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งจินตนาการที่ตื่นเต้น ตัวละครน่าสนใจ เรื่องของความรัก การผจญภัยและมนตร์วิเศษ (หนังยอดนิยมอันดับที่ 2 จากการสำรวจครั้งนี้คือ E.T. the Extra-Terrestrial ครับ) ทำให้หนังเรื่อง Chitty Chitty Bang Bang คว้าแชมป์ไปในที่สุด



          ตัวเอกในหนังเรื่องนี้น่าจะเป็น รถมหัศจรรย์ ที่ไปได้ทุกหนทุกแห่ง มีรูปร่างและสีสันสวยงามมาก มันมีปีกสำหรับเหาะได้ ส่วนท้ายของรถมีลักษณะเหมือนเรือทำให้แล่นในน้ำได้ รถคันนี้ออกแบบย้อนยุคโดยผสมผสานจากรถที่ผลิตจริงประมาณปี 1910 


          ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ แตรของรถในหนังเรื่องนี้เคยใช้ในรถของ Mercedes Benz ปี 1913 ที่มีแตรรถเป็นรูปมังกร (ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของ Benz ในเยอรมัน) และรถ Rolls Royce ปี 1914 Wood Body เหมือนกันที่ส่วนท้ายที่มีรูปร่างคล้ายเรือและแตรรูปร่างเป็นงู


               ในปีเดียวกันกับที่ภาพยนตร์ออกฉาย (1968) Corgi ผู้ผลิตรถเหล็กชั้นนำของอังกฤษได้นำรถจากหนัง Chitty Chitty Bang Bang มาผลิตเป็นรถเหล็ก ความยาว 16 ซม. ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพดี มีสีสัน สัดส่วนและรายละเอียดสวยงาม ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ทำด้วยโลหะ, ไฟหน้าคริสตัล, ซี่ล้อโลหะ มีกลไกพับเก็บปีกใหญ่ทั้งสองข้าง โดยใช้ก้านเบรกมือของรถเป็นตัวบังคับ นอกจากนี้ยังมีฟิกเกอร์จากภาพยนตร์อยู่บนรถลงสีด้วยมืออยู่บนรถเหมือนกับภาพบนใบปิดหนังเรื่องนี้ด้วย ด้วยความสวยงามและผลิตด้วยวัสดุชั้นยอดและการผลิตจำนวนไม่มากนัก ทำให้รถเหล็กจาก Chitty Chitty Bang Bang ได้รับความนิยมมาก และซื้อหากันด้วยราคาสูงมากในปัจจุบัน ถือเป็นรถเหล็กระดับตำนานคันหนึ่งทีเดียวครับ









               เวลาผ่านไปเกือบ 40 ปี ภาพยนตร์ Chitty Chitty Bang Bang ก็ยังคงอยู่ในหัวใจเด็กอยู่เสมอ และรถเหล็กจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงอยู่ในใจของผู้ใหญ่ (ที่มีหัวใจเด็ก) ตลอดไปเช่นกัน

Friday, 12 November 2021

FORD MODEL A, MATCHBOX No.38 และ TIGER BALM

รถเหล็กที่ใช้โปรโมทหรือโฆษณาสินค้าต่างๆ เมื่อพูดถึงรถเหล็กชนิดนี้ก็จะต้องพูดถึง Matchbox No.38 ซึ่งเป็นรถฟอร์ดโมเดล A ซึ่งเริ่มต้นผลิตในปี 1982 (รถจริงเริ่มผลิตในปี 1928-1931 ขายไปมากกว่า 5 ล้านคัน)






Matchbox No.38 นับเป็นรถเหล็กที่ผลิตจำนวนมากที่สุด มีนับร้อยแบบ มีการโปรโมทสินค้าต่างๆ มากชนิดที่สุด รวมทั้งยาหม่องตาเสือของเอเชียเราด้วยครับ Matchbox No.38 แบบแรกผลิตในปี 1982 ตัวรถสีน้ำเงิน โฆษณาสีน้ำเงินโฆษณาหัวเทียน Champian มีผู้นิยมสะสมมาก (โดยเฉพาะในอังกฤษและอเมริกา) จนถึงกับมีการทำหนังสือคู่มือเฉพาะ Matchbox No.38 ขึ้นมาเลยทีเดียว บางแบบหายากมากเพราะผลิตขึ้นมาเพียงไม่กี่ร้อยคันเท่านั้นเอง Matchbox No.38 ถือเป็นรถเหล็กยอดนิยมตลอดกาลของ Matchbox (แต่คงไม่ใช่ในเมืองไทย) ที่อังกฤษ Matchbox No.38 โฆษณา Corn Flakes ของ Kelloggs ขายไปมากกว่า 2 ล้านคัน



          รถเหล็ก Matchbox No.38 ที่นำมาให้ชมกันในวันนี้เป็น Matchbox No.38 โฆษณายาหม่องตราเสือ ผลิตในประเทศไทย ปี 1993 เป็น 1 ใน 6 แบบของรถชุด “Pills, Potions & Powders” ความยาว 7.5 ซม.

          ยาหม่องตราเสือเป็นยาหม่องที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปี โดยเริ่มในปี 1870 หมอยาจีนแผนโบราณ โอว ชู คิน ได้เริ่มต้นธุรกิจยาแผนโบราณโดยเปิดร้านเล็กๆ ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า และพยายามที่จะพัฒนาสูตรยาหม่องขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และไม่ค่อยเป็นที่นิยม จนกระทั่งมาถึงรุ่นลูกคือ โอว บุน พา และโอว บุน โฮว ได้พัฒนาสูตรจนประสบความสำเร็จและใช้ตราสัญลักษณ์รูปเสือซึ่งแปลมาจากชื่อของ โอว บุน โฮว นั่นเอง ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ย้ายกิจการไปตั้งที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 1926 สองพี่น้องได้ขยายกิจการจนยาหม่องตราเสือจำหน่ายไปทั่วโลก แม้แต่องค์จักรพรรดิ์ของจีนก็ยังทรงใช้อยู่ ทำให้โอวบุนโฮว กลายเป็นมหาเศรษฐีของสิงคโปร์ (โอว บุน พา ผู้เป็นพี่ชายได้เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

          โอว บุน โฮว ได้สร้างสวนสนุกขึ้นในสิงคโปร์และฮ่องกงจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจนถึงปัจจุบัน รถเหล็ก Matchbox No.38 ก็ได้ถ่ายภาพโดยใช้สวนโอว บุน โฮว เป็นฉากหลังทั้ง 3 ภาพ




         ภาพ Ford Model A ของจริง และโฆษณา “Tiger Balm” ในอดีตคงจะมีจริงเพราะกิจการยาหม่องตราเสือได้ผ่านยุคของ Model A มาในช่วงที่ Model A กำลังมีจำหน่ายอยู่ในขณะนั้น (1928-1931) และอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะยืนยันได้ว่า Ford Model A ที่ข้างรถโฆษณา Tiger Balm มีอยู่จริงก็คือ รถสองคันข้างล่างนี้เองครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ Model A แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีการใช้รถเพื่อโปรโมทสินค้าในยุคนั้นกันแล้วครับ



          เห็นไหมครับว่าการสะสมรถเหล็กก็ให้ความรู้และความเพลิดเพลินแก่เราได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเรื่องราวในตัวเองเสมอครับ