Tuesday, 11 August 2009

ปืนใหญ่ CRESCENT - 18 LB ROYAL HORSE ARTILLERY GUN


ปืนใหญ่ Crescent -18 LB Royal Horse Artillery Gun ผลิตในอังกฤษ ประมาณปลาย 1950 ความยาว 10.2 ซม. ลำกล้องปืนยาว 5.9 ซม. กว้าง 4.3 ซม.

ปืนใหญ่จริง 18LB Royal Horse Gun ผลิตครั้งแรกสำหรับกองทัพอังกฤษในปี 1904 ผ่านการรบมาหลายครั้ง รวมทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 มีระยะยิงไกลสุด 5.96 กิโลเมตร ปรับมุมยิงได้ -5/30 องศา เส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้อง 84 มม. เลิกผลิตในปี 1993 รวมจำนวนการผลิตทั้งหมดประมาณ 9,400 กระบอก ปัจจุบันหาดูได้ในพิพิธภัณฑ์ Royal Artillery Museum, London


ปืนจำลองของ Crescent กระบอกสีเขียวทหาร มีกลไกสำหรับยิงได้ (ระบบสปริง) ลำกล้องปรับระดับได้ แต่ไม่มีตัวล๊อก ต้องใช้มือจับเพื่อเล็งยิง ทุกชิ้นส่วนทำด้วยโลหะทั้งหมด (สามารถยิงกระสุนไม้จิ้มฟันขนาด 20 มม. ได้ไกลกว่า 4000 มม.) Crescent เป็นบริษัทผลิตของเล่นอังกฤษ ส่วนใหญ่ผลิตหุ่นจำลองทหารและอาวุธสงครามที่ทำด้วยโลหะ ก่อตั้งเมื่อต้นปี 1920

Saturday, 1 August 2009

รถหรู Y-20 - 1937 MERCEDES 540K



รถเหล็ก Matchbox Models of Yesteryear No.Y 20A – 1937 Mercedes 540K ผลิตโดย Lesney ในประเทศอังกฤษ ปี 1979 ความยาว 12.5 ซม. (45:1)

รถสปอร์ต 1937 Mercedes 540K คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ, 5400 cc. กำลัง 180 แรงม้า (เมื่อใช้ Supercharger) มีความเร็วกว่า 100 ไมล์/ชม. ช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ระยะห่างฐานล้อหน้า-หลัง 11 ฟุต 2 นิ้ว ความกว้างฐานล้อ 5 ฟุต 1.5 นิ้ว นับเป็นรถระดับซุปเปอร์คาร์ในยุคนั้นครับ

รถเหล็ก 540K คันนี้ สีบรอนซ์เงิน-ดำ ใต้ท้องโลหะสีดำ ช่วงล่างและเครื่องยนต์โครเมี่ยม กันชนหน้า-หลัง ไฟหน้า หม้อน้ำ ท่อไอเสียและกรอบกระจกหน้าโครเมี่ยม ทั่นั่งภายในสีแดง พวงมาลัยสีดำ แผงควบคุมโครเมี่ยม, Dog Seat พับเก็บได้ ภายในเบาะนั่งสีแดง ล้อยางถอดได้ พร้อมล้ออะไหล่ด้านหลังรถ Lesney ผลิตรถรุ่นนี้ออกมาโดยมีสีต่างๆ 14 แบบ แบบที่มีราคาสูงคือสีเหลืองมะนาว, ผลิตในอังกฤษ จีน และมาเก๊า

รถคันสวยที่ชื่อ 1982 BUGATTI T44



รถเหล็ก Matchbox Models of Yesteryear No.Y24A 1928 Bugatti T44 ผลิตในอังกฤษ โดย Lesney ผู้ผลิตเจ้าเก่าดั้งเดิม ปี 1983 ความยาว 11.4 ซม. (1:38)

รถ Bugatti T44 ปี 1928 ออกแบบโดย Ettore Bugatti วิศวกรชาวอิตาเลียนโดยกำเนิด แต่มาอาศัยและผลิตรถอยู่ในฝรั่งเศส รถ T44 คันนี้ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3000 cc , 8 สูบ ตั้ง T44 เป็นรถ Hand Made ผลิตทีละคัน เป็นรถสามที่นั่ง หม้อน้ำระบายความร้อน มีรูปทรงเป็นรูปเกือกม้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Bugatti
ส่วนรถเหล็กจำลอง T44 คันนี้สีดำ ประตูรถเหลือง กระจกใส ภายในสีแทน ใต้ท้องโลหะสีดำ ล้อยางถอดได้พร้อมล้ออะไหล่ 2 ล้อและกล่องบรรจุสัมภาระด้านท้ายรถ รถเหล็กรุ่นนี้ Lesney ผลิตโดยมีสีต่างๆ 6 แบบ ผลิตในอังกฤษ มาเก๊าและจีน

รถเหล็กขายไอศกรีมหวานเย็นมาแล้วจ้า



The Commer ‘Lyons Maid’ Ice Cream คันนี้ผลิตขึ้นในเดือนมีนาคม 1963 เป็นรถเหล็ก Matchbox รุ่น Regular Wheels หมายเลข 47 ในแคตตาล็อกของ Matchbox ปี 1963,1964 และ 1965 ได้ระบุสเกลไว้คือ 75:1 แต่อีก 3 ปีต่อมาโมเดลนี้กลับถูกบันทึกสเกลเป็น 85:1

ในยุคต้นปี 1960 ของการทดลองผลิตรถเหล็กคันนี้ ตัวรถจะทำเป็นสีฟ้า ภายในสีส้ม และไม่มีไอศกรีมในมือคนขาย แต่ในการผลิตออกมาจำหน่ายจริงในปีนั้น ได้เปลี่ยนตัวรถเป็นสีฟ้าเมทัลลิค ภายในสีครีม ซึ่งเราจะเห็นอยู่ในแคตตาลอกของปี 1968 ลักษณะภายในตัวรถจะมีตู้ไอศกรีม คนขายในมือจะถือไอศกรีม decal ที่ติดที่ตัวรถและหลังคารถจะแตกต่างกันออกไปเป็น 3 แบบ แม้แต่โฆษณาที่ติดข้างรถก็จะออกแบบแตกต่างกันไป 3 แบบ รวมทั้งคนขายก็แตกต่างกับไปทั้งลักษณะของพลาสติกที่ใช้ แบบแรกตัวคนขายเป็นแบบชายรูปร่างสูง ขาโผล่ออกมาจากเสื้อโค้ด หัวจะติดกับช่องเปิดปิดบนหลังคา แบบที่สอง จะเป็นชายรูปร่างเตี้ยกว่า หัวจะต่ำจากช่องเปิดปิดบนหลังคาอยู่เล็กน้อย ขาก็ไม่โผล่ออกมาจากเสื้อโค้ด แบบที่สามเป็นผู้ชายร่างเตี้ย ศีรษะก็ต่ำด้วยเช่นกัน แบบที่ 2 และ 3 เป็นแบบที่หายากครับ ลองหยิบรถของคุณมาดูซิครับว่าเป็นแบบไหน

Monday, 20 July 2009

รถที่ระลึกทางหลวงหมายเลข 66 (ROUTE 66)


รถเหล็ก Dodge ปี 1939 รูปทรงเพรียวลม (Stremliner) คันนี้เป็นรถบรรทุกน้ำมันขนาดเล็ก ที่ผลิตเพื่อเป็นที่ระลึกทางหลวงหมายเลข 66 ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก (The Motor Road) ของชาวอเมริกัน ตั้งแต่ปี 1926 และบรรดายานพาหนะต่างๆ ที่นิยมใช้งานอยู่บนทางหลวงสายนี้ มักจะเป็นรถรูปทรง Streamliner ที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษ 1930-1950 นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ Lledo ผลิตรถรูปทรงนี้สำหรับเป็นที่ระลึกแก่ทางหลวง หมายเลข 66 ซึ่งได้ชื่อว่า เป็น Main Street of America ในยุคนั้น เรามาทำความรู้จักกับทางหลวงสาย 66 เส้นนี้กันสักนิดดีไหมครับ



Route 66 เป็นทางหลวงสายแรกๆ ของสหรัฐอเมริกา เริ่มเปิดใช้งานในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 1926 โดยเริ่มต้นจากฝั่งตะวันออก ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอย ผ่านรัฐมิสซูรี เท็กซัก นิวเม็กซิโก อริโซนา และไปสิ้นสุดทางฝั่งตะวันตกที่ลอสแองเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย รวมระยะทางทั้งสิ้น 3,940 กิโลเมตร ถนนสายนี้หลังจากการสร้างเสร็จในปี 1926 ก็ได้กลายเป็นเส้นทางหลัก และมีความสำคัญในการกระจายความเจริญจากฝั่งตะวันออกไปตะวันตกของชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก จนปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ หลายรูปแบบ เช่นมีผู้นำมาแต่งเป็นบทเพลงที่ขับร้องโดย แน็ท คิงโคล, The Rolling Stones รวมทั้งได้ปรากฏเป็นฉากในภาพยนตร์โทรทัศน์หลายเรื่อง และกระทั่งล่าสุดในปี 2007 ก็มีการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Cars โดย PIXAR ซึ่งเป็นตำนานของ Route 66 นั่นเอง





Route 66 รับใช้ชาวอเมริกันมาเป็นเวลายาวนานเกือบ 60 ปี ได้รับการดูแลรักษาและปรับปรุงซ่อมแซมเรื่อยมา แต่ในที่สุด ในปี 1985 ก็ถูกลบออกจากแผนที่ระบบทางหลวงของสหรัฐ เนื่องจากมีเส้นทางใหม่ๆ ถูกตัดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันเลี่ยงไปใช้เส้นทางที่สะดวกสบายกว่าแผนที่ Route 66 ซึ่งค่อนข้างแคบและเก่า
ปัจจุบัน Route 66 บางส่วน เช่นในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ถูกนำกลับมาสู่แผนที่อีกครั้ง ในฐานะที่เป็นทางหลวงสายประวัติศาสตร์ (Historic Route 66) และเพื่อการท่องเที่ยวโดยได้ปรับปรุงบางสถานที่เป็นพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งอนุรักษ์สถานที่น่าสนใจต่างๆ ไว้ เช่น ปั๊มน้ำมันเก่าๆ ร้านอาหารที่เคยรับใช้คนอเมริกันมายาวนาน

ทีนี้มาว่ากันถึงบรรดารถราหรือยานพาหนะที่เคยวิ่งอยู่บนทางหลวงสายนี้กันบ้าง แน่นอนครับส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ออกแบบและสร้างในยุค 1930-1960 ที่เป็นยานพาหนะในรูปทรงเพรียวลมหรือ Stremliner นั่นเองครับ




Streamliner หมายถึง รูปทรงเพรียวลมของยานพาหนะในยุคตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ถึง 1950 (และมีอิทธิพลมาถึงการออกแบบสินค้าอื่นๆ ด้วน เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องดูดฝุ่น) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบรูปทรงของรถไฟ และรถยนต์ อย่างเช่น




รถไฟความเร็วสูงรูปทรง Streamliner คันแรก ออกแบบและผลิตในเยอรมันนี ปี 1930 ชื่อว่า “SCHIENENZEPPELIN” แล่นระหว่าง Berlin และ Hamburg จากนั้นการออกแบบในแนวนี้ก็มีอิทธิพลต่อการออกแบบรถยนต์โดยสาร รถยนต์นั่งส่วนตัว รวมทั้งรถบรรทุกสินค้าต่างๆ (รวมทั้งเครื่องปิ้งขนมปังด้วย) รถ Dodge ปี 1939 Streamliner คันนี้ก็ได้รับอิทธิพลมาจากการออกแบบในแนวนี้เช่นกัน ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องของรถเหล็กคันนี้กันครับ




รถเหล็ก Dodge ปี 1939 รูปทรงเพรียวลมคันนี้เป็นรถบรรทุกน้ำมันขนาดเล็กสีแดง-น้ำเงิน-ขาว ประตูด้านข้างพิมพ์ Tempa โลโก้ Route 66 และด้านข้างตัวถังพิมพ์ข้อความ Route 66 Main Street of America กันชนหน้า-หลังและไฟหน้าโครเมี่ยม ไม่มีกระจก หน้าต่างตามสไตส์ของ Lledo ใต้ท้องสีดำ ล้อยางถอดได้ หนาหนักได้ความรู้สึกรถเหล็กดีมากครับ

Saturday, 18 July 2009

รถแข่ง 1957 MASERATI 250F



รถเหล็ก Matchbox Models of Yesteryear No.Y10D – 1957 Maserati 250F ผลิตโดย Matchbox International Ltd. ในอังกฤษ ปี 1986 ความยาว 11.9 ซม.

Maserati 250F ตัวจริง เป็นรถแข่งสูตรหนึ่ง เริ่มผลิตและแข่งขันครั้งแรกในปี 1954 ในอาร์เจนตินากรังซ์ปรีดิ์ (แข่งขันครั้งสุดท้ายในปี 1960) รถรุ่นนี้ออกแบบโดย Gioacchino Columbo และ Valerio Colotti ในปี 1957 ชนะเลิศกรังซ์ปรีดิ์ระดับโลก ด้วยรถรุ่น Lightweight 250F ขับโดย Juan Fangio รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์หกสูบ 2493 cc กำลัง 270 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 165 ไมล์/ชม. รถรุ่นนี้ผลิตออกมาทั้งหมด 26 คันเพื่อใช้ในการแข่งขันในช่วงปี 1954-1960

รถเหล็ก Y10D -197 Maserati 250F คันนี้ เป็นหนึ่งในรถเหล็กชุด Model of Yesteryear Grand Prix ซึ่งเป็นชุดของรถแข่งสูตรหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญ มีวิวัฒนาการในด้านต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงการแข่งรถกรังซ์ปรีดิ์ โดยมีสถาบัน Christies ให้การรับรองว่ารถพวกนี้เป็นรถแข่งประวัติศาสตร์ของแท้ สถาบัน Christies เป็นสถาบันการประมูลของเก่าโบราณวัตถุต่างๆ ของอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับโลกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1766

รถเหล็ก Y10D สีแดงส้ม พิมพ์ Tempa หมายเลข 12 ที่ด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ ท่อไอเสีย พวงมาลัยสีเทา กันลมกระจกใส เบาะนั่งสีดำ ใต้ท้องโลหะ ล้อยางถอดได้ ซี่ล้อโครเมี่ยม Matchbox ผลิตรถรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียงสีเดียวคือ สีแดงอมส้ม แต่มี 2 แบบคือ แบบที่มีซี่ล้อชุบโครเมี่ยมและแบบพ่นสีบรอนซ์เงิน ผลิตในอังกฤษและมาเก๊า ราคาสำหรับนักสะสมใกล้เคียงกันทั้ง 2 แบบ

CORGI JUNIORS: LAND ROVER PICKUP



มาดูรถเล็กกันบ้างครับ คันนี้เป็นรถเหล็ก Corgi Junior No.16-B Land Rover Pickup รถเหล็ก Corgi Junior No.16-B Land Rover Pickup ผลิตในอังกฤษปี 1971 ความยาว 7.1 ซม. สเกล 1/64

รถจริง Land Rover เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ยุคบุกเบิกของอังกฤษ (ของโลกด้วย) เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Show ที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ในเดือนเมษายน ปี 1948 และหลังจากนั้นราว 2-3 เดือนก็ผลิต Land Rover Series I ออกจำหน่ายในราคา 450 ปอนด์