รถเหล็กลุยซาฟารีที่ชื่อ CITROEN SAFARI ของ CORGI

นานๆ เราจะอารถซีตรองมาให้ดูกันนะครับ เป็น Corgi Juniors WhizzwheelsNo.2 Citroen Safari ผลิตในประเทศอังกฤษ ปี 1970 ความยาว 7 ซม. ผลิตออกมาตัวรถสีหลัก 4 สี แต่เรือบนหลังคาจะมีสีต่างๆ 7 สีครับ สำหรับตัวรถมีสีทอง น้ำเงินเข้ม สีเหลือง และสีม่วง คันที่ผมเอามาให้ดูเป็นสีเหลืองบนหลังคามีเรือสีขาว เรือถอดออกจากหลังคาได้ ใต้ท้องโลหะสีเงิน กระจกใส ภายในสีเหลืองอ่อน ตัวรถจะอยู่ใน Pack บน Pack มีรูปรถสำหรับเก็บไว้ได้ ด้านหลังมีประวัติรถจริง หายากแล้วครับ

รถ MOBILE CRANE ของ CORGI

รถเครนคันนี้เป็นรถเครน Warner & Swasey 4418 Hydraulic ของ Corgi ผลิตจากประเทศอังกฤษ ปี 1975 ความยาว 22 ซม. ตัวเครนยืดได้ยาวสุด 36 ซม. ตัวเครนหมุนได้รอบ 360 องศา มีขาค้ำยัน พับเก็บได้ มีกลไกสำหรับหมนุยกเครนขึ้นลง และมีปุ่มหมุน ขอยกขึ้นลง ล้อยางถอดได้ แกนล้อเป็นโลหะ ตะขอโลหะ รถคันนี้มีอายุกว่า 30 ปี แต่กลไกทุกชิ้นทำงานปกติ สวยมากครับ คนที่ชอบรถก่อสร้างต้องชอบรถคันนี้แน่ๆ

รถเครนของ DINKY ที่ชื่อ COLES MOBILE CRANE

เอารถที่ใช้ในการก่อสร้างมาฝากกันอีกแล้วครับ คันนี้เป็นรถเหล็ก Dinky No.971 Coles Mobile Crane ผลิตในอังกฤษ ปี 1955 โดยผู้ผลิตดั้งเดิมคือ Meccano Ltd. ความยาว 16.2 ซม. ตัวรถเหล็กสีเหลืองเข้มและดำ คนขับสีเนื้อ (Hand Paint) ล้อยางจริงสีเทา ถอดได้ ดุมล้อโลหะสีเหลือง ใต้ท้องโลหะสีดำปั้มตัวอักษรนูนตามแบบฉบับของ Dinky มีกลไกสำหรับยกเครนอยู่ด้านซ้ายของตัวรถ และกลไกหมุนรอกอยู่ด้านขวา รถยุคนี้ยังไม่มีกระจกสำหรับห้องควบคุมครับ ตัวเครนและห้องควบคุมหมุนได้ 360 องศา กลไกทำงานได้ตามปกติ คันนี้ล้อยางสภาพใหม่เอี่ยมเลยครับ (เนื่องจากในยุโรปและอเมริกา มีผู้สะสม Dinky เป็นจำนวนมาก จึงยังมีการผลิตยางอะไหล่ด้วยเครื่องจักรดั้งเดิม จึงถือว่าเป็นล้อยางของแท้ก็ได้ครับ)

รถตำรวจ MORRIS MINI VAN ของ Corgi

วันนี้ผมเอาอีกหนึ่งรถตำรวจมาให้ยลโฉมกันนะครับ เป็นรถเหล็ก Corgi No.96956 – Morris Mini Van (Police) ผลิตโดย Mattel UK Limited ในจีน ปี 1994 ความยาว 7.7 ซม. (1:43)

รถเหล็กคันนี้เป็นรถเหล็ก Mini Van ในชุด Classic Vehicles ของ Corgi ในยุคของ Mattel Inc. รถ Austin Mini Van รุ่นนี้เคยใช้เป็นรถตำรวจอังกฤษในยุคทศวรรษ 1960 เนื่องจากมีขนาดเล็ก มีความคล่องตัวสูงในการใช้งานของตำรวจ โดยเฉพาะเมืองต่างๆ ในอังกฤษซึ่งมีถนนหนทางค่อนข้างคับแคบ

รถเหล็ก Austin Mini Van ซึ่งเป็นรถใช้ในราชการตำรวจอังกฤษ คันนี้มีสีน้ำเงินเข้ม ด้านข้างส่วนหลังมี Tempa ข้อความ Police สีน้ำเงินบนพื้นขาว ที่ประตูทั้ง 2 ด้านมีโลโก้ตำรวจอังกฤษ บนหลังคาส่วนหน้ามีกล่องไฟสีขาว มีข้อความ Police และไฟสัญญานสีน้ำเงินบนกล่องไฟ ไฟหน้า กันชนหน้า-หลัง มือจับประตู กรอบไฟท้าย กระจกมองหลังในห้องโดยสาร และดุมล้อ ทั้งหมดสีโครเมี่ยม กระจกใส พร้อมที่ปัดน้ำฝนสีบรอนซ์เงิน ภายในสีเทา ใต้ท้องโลหะ ป้ายทะเบียนหน้า-หลัง “GPK 26K” รถเหล็กคันนี้บรรจุในกล่องพร้อมฉากหลัง 4 สี หมุดยึดรถกับตัวกล่องทำด้วยโลหะ ใช้มือหมุนบิดออกโดยใช้มือได้ ท่านใดที่สะสมรถตำรวจ คันนี้พลาดไม่ได้ครับ

รถมาสด้า...กระบะ..กระบะ

สวัสดีครับ ไม่รู้ชาวบล็อกรถเหล็กเกิดทันโฆษณารถมาสด้าที่เนื้อร้องลงท้ายว่า มาสด้า กระบะ..กระบะ กันไหมครับ (นานแค่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว ไม่บอกหรอกครับ เดี๋ยวเดาอายุผมได้) คันนี้เป็นรถเหล็ก Corgi No.413 - Mazda B1600 Motorway Maintenance Truck ผลิตโดย The Mattoy Co.Ltd. ในอังกฤษปี 1976 ความยาว 15.5 ซม. สูง 13.1 ซม. (เมื่อยกเครนจนสุด)

รถเหล็ก Mazda B1600 No.413B คันนี้ปรับปรุงมาจากรถเหล็ก 493A (Mazda B1600 Pickup Truck) โดยเพิ่มส่วนที่เป็นเครนและทำสีรวมทั้งสติกเกอร์ใหม่ มาดูเรื่องราวของตัวรถจริงของรถกระบะมาสด้า Series B กันสักนิดดีไหมครับ เอาใจบรรดาแฟนๆ รถ Pickup กันหน่อย

รถ Mazda B Series Pickup เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 1961 ด้วยรุ่น B1500 ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มีกำลัง 59 แรงม้า ในปี 1966 มีการเปลี่ยนแปลงตัวถังรถ และเครื่องยนตร์ก็ถูกปรับปรุงให้มีกำลังม้าสูงขึ้นเป็น 73 แรงม้า หลังจากนั้นอีก 5 ปีต่อมาคือในปี 1971 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ถูกนำมาติดตั้งใน B Series เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นรถรุ่นเดียวกันกับที่ Corgi นำมาผลิตเป็นรถเหล็กคันนี้

ปี 1972 Mazda B Series ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวถังอีกครั้ง ใช้เครื่องยนตร์ขนาด 1.8 ลิตร และส่งออกไปขายในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ระหว่างปี 1974-1977 กระบะมาสด้า Series B ได้ผลิตรถรุ่นพิเศษโดยใช้เครื่องยนตร์แบบลูกสูบหมุน (Rotary) ขนาด 1.3 ลิตร แต่มีกำลังสูงถึง 143 แรงม้า รถรุ่นนี้ใช้ Disc Brake และกระจังหน้าก็ออกแบบใหม่ หลังจากนั้น B-Series ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา จนในปี 1986 ก็ผลิตรุ่นที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จนหยุดการผลิตในต้นทศวรรษ 1990

ทีนี้มาว่ากันถึงรถเหล็กรุ่นนี้กันบ้างครับ Corgi ผลิตรถเหล็ก Mazda B-Series ออกมาหลายแบบครับ เท่าที่หามาได้ก็มีหมายเลข 493B สีฟ้า-เทา

หมายเลข 440B สีเหลืองคาดสติกเกอร์ ผลิตในปี 1979

หมายเลข GS28B เป็นรถลากรถพ่วงบรรทุกเรือยาง เริ่มผลิตในปี 1975

หมายเลข 415-A ซึ่งดัดแปลงเป็นรถบ้าน ผลิตในปี 1976

หมายเลข 264-B ใช้เป็นรถจากภาพยนตร์ชุดทาง TV “The Incredible Hulk” หรือไอ้ตัวเขียวที่เรารู้จักกันดี ผลิตในปี 1979

หมายเลข 495B เป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ผลิตในปี 1983 น่าจะเป็นรุ่นหลังสุดที่ Corgi นำ Mazda Series B มาผลิตเป็นรถเหล็ก จะเห็นได้ว่าทุกคันมีพื้นฐานมาจากรถเหล็กหมายเลข 493A ที่ผลิตในปี 1975 รวมทั้ง 413B คันนี้ซึ่งทำเป็นรถซ่อมบำรุงทางด่วน

413B คันนี้สีเหลือง มีสติกเกอร์ด้านข้างประตูข้อความ “Motorway Maintenance” บนหลังคาห้องโดยสารมีสติกเกอร์สีแดงอักษรขาว ข้อความ .Road Works” บนฝากระโปรงหน้ามีสติกเกอร์ลายทาง กระบะด้านหลังห้องโดยสารมีแผงโลหะป้องกันกระจก ฝากระบะหลังโลหะเปิด-ปิดได้และหล่อนูน “Mazda” ฐานโลหะของเครนสีแดง ก้านเครนโลหะ กระเช้าเหลือง ปลอกไฮโดรลิคสีดำ ก้านไฮโดรลิคโลหะ เครนยกขึ้นลงได้และหมุนได้ 360 องศา กระจังหน้าสีดำ ขอลากด้านหลังสีดำ กระจกใสภายในสีดำ ใต้ท้องสีดำมีข้อมูล Made in Gt. Britain Corgi, Mazda B1600 Pickup, Scale 1/36, Patent No.1278081 ดุมล้อสีบรอนซ์เงิน แฟนๆ มาสด้าน่าจะชอบคันนี้กันนะครับ

ตรุษจีนนี้ไปเที่ยวสวนสัตว์ DUDLEY ZOO กันดีกว่า

สวัสดีครับ วันนี้ผมพาไปเที่ยวสวนสัตวศาสตร์ด้วยรถเหล็กคันนี้กันครับ รถเหล็ก Corgi No.VA10602 – Morris J2 Van (Duley Zoo) ผลิตโดย Corgi Classic Ltd. (Great Britain) ในจีน ปี 2007 ความยาว 2007 ความยาว 10.2 ซม. (1:43) รถเหล็ก Morris J2 Van คันนี้ Corgi ผลิตโดยได้รับอนุญาตจาก MG Rover Group Limited เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 70 ปีของสวนสัตว์ Dudley Zoological Gardens (1937-2007) สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของอังกฤษแห่งนี้ที่จริงน่าจะเรียกว่า สวนสัตวศาสตร์ (เหมือนที่เราเรียก Botanic Gardens ว่า สวนพฤษศาสตร์) เพราะภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้คำว่า Zoo แต่ใช้คำว่า Zoological Gardens สวนสัตว์ Dudley แห่งนี้เปิดทำการครั้งแรกในปี 1937 ในใจกลางภาคตะวันตกตอนกลางของอังกฤษบนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ท่ามกลางร่มเงาของประสาทในยุคกลาง ที่นี่เป็นบ้านของสัตว์ต่างๆ กว่า 1000 ตัว 200 กว่าสายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ดุร้ายอันตราย และหายาก รวมทั้งเป็นสถานที่อนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในอังกฤษ หากคุณสนใจสวนสัตวศาสตร์แห่งนี้ก็เขาไปที่ http://www.dudleyzoo.org.uk/

ส่วนรถ Morris J2 Van คันนี้เป็นรถแห่ที่ใช้ในช่วงทศวรรษ 1960 โดยมีการตกแต่งบนหลังคาและเขียนข้อความเหมือนรถเหล็กคันนี้เลยครับ (จากภาพถ่ายที่หลังกล่อง) J2 Van รุ่นนี้มีทั้งแบบตู้และกระบะ ออกแบบโดย Morris เปิดตัวครั้งแรกในปี 1956 และอยู่ในสายการผลิตจนถึงปี 1967 จำนวนการผลิตทั้งสิ้น
120,000 คัน จากนั้นก็มีการปรับปรุงใหญ่เปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น BMC JU ผลิตจนถึงปี 1974 ก็ปิดฉาก Morris J2 Van รุ่นนี้ สเปคของรถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1489 cc ให้กำลัง 42 แรงม้าที่ 400 รอบ/นาที มีเนื้อที่บรรทุก 200 ลูกบาศก์ฟุต ความยาวตัวรถ 14 ฟุต 2 1/8 นิ้ว

ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องราวรถเหล็ก Morris J2 Van คันนี้กันบ้างครับ การย่อส่วนลงในขนาด 1:43 ทำให้รถคันนี้น่ารักสวยงามมากโดยเฉพาะเมื่อมีการตกแต่งเหมือนรถของจริงที่ใช้ในกิจการของสวนสัตวศาสตร์ Dudley mเคยใช้ในยุค 1960 โดยเป็นภาพ 4 สี คัมเอาท์ของสัตว์ต่างๆบนหลังคารถ ล้อมรอบด้วยกำแพงสมัยยุคกลาง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมจริงของสวนสัตวศาสตร์ Dudley แห่งนี้ ด้านข้างตัวรถทั้งสองด้านพิมพ์ Tempa 4 สีสวยงาม มีข้อความ Dudley Zoo An Ancient Castle. A Wooded Hillside, “A Day Full of Pleasure for the Whole Family” ที่ประตูรถด้านหน้าทั้งสองด้านเป็นรูปลิงชิมแปนซี บนขอบหลังคามีข้อความ 1100 Animals and Birds – Aquarium-Reptile House ตัวรถส่วนบนสีส้มและส่วนล่างสีดำด้าน มีกระจกมองข้างทั้งสองด้าน ที่ปัดน้ำฝนสีดำ ไฟหน้าและฝาครอบล้อโครเมี่ยม กระจกใส ภายในสีดำ ล้อยางถอดได้ ใต้ท้องหล่อนูนช่วงล่างสีดำ บรรจุในกล่องกระดาษแข็งพิมพ์ 4 สีสวยงาม มีภาพในอดีตของสวนสัตวศาสตร์ Dudley ตัวรถยึดบนแท่นวางเพื่อช่วยรักษายางรถ พร้อมฉากหลังของสวนสัตว์ พร้อมแคตตาล๊อก (มีใบสมัครสมาชิก Corgi Collectors Club อยู่ด้วย) และใบรับประกันการผลิตจำนวนจำกัดเป็นใบเดียวกับ Collector Card เป็นรูปรถ4 สีสวยงาม ด้านหลังมีเรื่องราวของตัวรถเหล็กและหมายเลขการผลิตจำนวนจำกัด คันนี้เป็นคันที่ 1753 จากจำนวนการผลิตทั่วโลกเพียง 2310 คันเท่านั้น

นักล่าหารถเหล็ก T-Hunt งมเข็มในมหาสมุทรจริงหรือ?

ในบรรดารถเหล็กที่ผลิตจำนวนจำกัดดูเหมือนว่า Treasure Hunts ของ Hot Wheels จะเป็นที่ต้องการของนักสะสมรถเหล็กขนาดเล็ก (ประมาณ 1:64) เป็นอย่างมาก ทุกคนจะตามล่า สอดส่ายสายตาค้นหาทุกซอกทุกมุมของแผงรถเหล็ก Hot Wheels เพื่อจะเป็นเจ้าของและครอบครองเจ้า T-Hunt สักคันก็ยังดี เพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีของนักสะสมรถเหล็ก เจ้า T-Hunt สำคัญขนาดนี้ เรามาลองมาทำความรู้จักกับมันสักนิดดีไหมครับ สำหรับคุณที่คุ้นเคยกับ T-Hunt แล้วจะผ่านไปก็ได้ครับ

T-Hunt คือรถที่คล้ายกับรุ่นปกติที่ผลิตออกมาในแต่ละปีนั่นเอง แต่จะคัดเลือกออกมา 12 คัน โดยผลิตออกมาคันละ 1 เดือน ซึ่งเท่ากับ 1 ปีพอดี รถเหล็กรุ่น T-Hunt จะมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างจากรถใน Series ปกติ หรือ tempa ข้อความที่แตกต่างออกไป ที่สำคัญคือมีการผลิตจำนวนจำกัดน้อยกว่าปกติ T-Hunt ของ Hot Wheels เริ่มต้นผลิตในปี 1995 โดยผลิตเพียง10,000 คันเท่านั้น โดยมีเครื่องหมาย $ หรือแถบสีเขียว (หมายถึงสีของธนบัตร US$) บน card ที่มีข้อความ Treasure Hunt Series หรือในปัจจุบันมีเพียงข้อความ T-Hunt ในปี 1996 ได้เพิ่มจำนวน T-Hunt เป็น 25,000 คัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น โดยจำนวนผลิตจะถูกพิมพ์ที่มุมบนซ้ายของการ์ด แต่หลังจากปี ’96 ก็ไม่ได้พิมพ์จำนวนผลิตบนการ์ดอีกเลย รวมทั้งมีการเพิ่มจำนวนการผลิตมากขึ้น แต่ไม่ได้แจ้งให้สาธารณชนทราบ

สำหรับโอกาสที่คุณจะเจอ T-Hunt มีมากใช่ไหม คำตอบคือ ไม่มากเลยครับ โดยเฉพาะที่ชั้นวางของห้างหรือร้านขายของเล่น ถ้าหากร้านขายนำขึ้นวางบนชั้นตั้งแต่วันแรกจำหน่าย T-Hunt ก็จะหมดไปตั้งแต่วันแรกที่นักสะสมไปยืนรอคิวก่อนร้านเปิด

คำถามข้อต่อไป T-Hunt จะมีอยู่ในกล่อง (บรรจุกล่องละ 6 โหล) คำตอบคือมีไม่ทุกกล่อง ส่วนใหญ่จะไม่มี อาจเป็นเพราะผู้ขายแยกเก็บไว้ขายต่างหากในราคาที่สูงกว่าปกติ มีผู้เล่าให้ฟังว่า เขาเปิดกล่อง Hot Wheels 50-60 กล่อง แต่เจอ T-Hunt เพียง 3-4 คันเท่านั้นเองที่เป็น T-Hunt (ผู้เล่าคือ Michael Zarnock ผู้เขียนหนังสือ Hot Wheels Variations the Ultimate Guide)
เอาละครับ มาดูกันซิว่าปี 2008 ที่ผ่านมามีคันไหนบ้างที่ถูกคัดเลือกเป็น T-Hunt ปี T-Hunt2008 T-Huntนี้เป็นปีค่อนข้างพิเศษคือเป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของ Hot Wheels โดยมี Logo “40 Hot Wheels 1968-2008” บน card จำนวน 12 คันของปี 2008 คือ
1. Chrysler 300C Hemi #161
2. ’70 Plymouth Road Runner #162
3. Rockstar #163
4. ’50 Ford Mustang GT #164
5. Hot Bird #165
6. Combee #166
7. Dodge Challenger Funny Car #167
8. ’06 Dodge Viper #168
9. ’76 Angals #169
10. ’64 Buic Riviera #170
11. Drift King #171
12. ’69 Chevy Camaro #172

ก็จบเรื่อง Series T-Hunt ไว้เพียงเท่านี้ ผมไม่ทราบว่าสถานการณ์ของนักล่าในบ้านเราเป็นอย่างไรบ้าง ยังไงก็เขียนมาเล่าแบ่งปันความรู้กันบ้างก็ดีนะครับ