คุณแยกออกไหมว่ารถเหล็กคันไหนเป็นของเล่น
หรือคันไหนเป็นโมเดล
เรามาลองแยกประเภทกันดีไหม?
จะได้รู้กันว่าใครสะสมของเล่น
หรือรถโมเดล หรือใครสะสมทั้งสองอย่าง
พวกสะสมรถโมเดลก็มักจะบอกว่า “เฮ้ย!
นั่นมันของเล่น” (ดูถูก
กลายๆ)
พวกสะสมรถของเล่นก็มักจะบอกว่า
“มันมีรายละเอียดมากเกินไป ไม่มีอารมณ์ ไม่มีลูกเล่น
(ไม่ได้หมายความว่า ลูกเอาไปเล่น)
ในบทความนี้จะเรียกรถทั้งสองชนิดอย่างกลางๆว่า
“รถจำลอง”
สมัยก่อนไม่ต้องย้อนไปไกลครับ
เอาสักประมาณ 50 ปีก็แล้วกัน หากเราต้องการซื้อของเล่น เราก็จะไปซื้อที่ร้านขายของเล่น
และในขณะเดียวกันหากเราต้องการซื้อ “รถจำลอง” เราก็จะที่ร้านขายของเล่นเช่นเดียวกัน
แต่ปัจจุบันร้านขายของเล่น
(ซึ่งมักจะอยู่ในห้าง ไม่ได้เป็นร้านอยู่ริมถนนอีกต่อไป เฉพาะใน กทม.นะครับ)
กับร้านขายรถโมเดล มักจะแยกกันอย่างชัดเจนคือคือ ขายรถโมเดลอย่างเดียว
ส่วนร้านขายรถของเล่นก็จะขายหลายๆ อย่าง รวมทั้งของเล่น บังคับวิทยุ
ของเล่นพลาสติก ของเล่นเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชาย ของเล่นเสริมทักษะ
ทีนี้เราจะมาดูกันว่าเวลาที่เราจะใช้งานรถจำลองทั้งสองชนิดต่างกันอย่างไร
รถของเล่นเวลาใช้งานเราก็จะเอามาลาก ไถ ดัน
เข็น ครูด โยนเล่น ตามลูกเล่นของมัน เช่น รถถังก็จะเอาปืนของมันมายิงกัน
บางทีก็เอามาขว้างใส่กัน (เวลาทะเลาะกันครับ)
ด้วยเหตุนี้ของเล่นที่ผลิตมาจึงเหลือจำนวนไม่มากที่มีสภาพดี
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้รถจำลองที่เป็นรถของเล่นรุ่นเก่าๆ มีราคาสูงมาก
ส่วนรถจำลองที่เป็นรถโมเดล
เวลาเราจะใช้งาน เราก็แค่เอามาดู ปัดฝุ่น ลูบคลำ ดม(บางคน) เปิดประตู ปิดประตู
สตาร์ทเครื่องยนต์ (อาจมีนะในอนาคต) เข้าไปนั่ง (อันนี้ใช้เฉพาะรถจำลองอัตราส่วน 1:1 ครับ)
ทุกคนก็จะรักษารถโมเดลของตัวเองไว้อย่างดี จำนวนของมันก็จะหายไปไม่มาก
มันก็จะแพงในตอนซื้อ และในอนาคตมันจะแพงขึ้นตามค่าของเงินที่มันแพงขึ้น
และจำนวนคนที่มากขึ้น ความต้องการของที่หยุดผลิตแล้วก็มากขึ้น
ทีนี้มาว่าถึงเทคนิคการออกแบบและการผลิตของรถจำลองทั้งสองประเภท
และลักษณะสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมันมีลูกเล่นที่จะทำให้เล่นได้ เช่น รถถังก็จะทำให้ปืนใหญ่บนรถถังใช้ยิงได้
หรือรถ Matchbox ก็จะมีลูกเล่นที่ทำให้กลไกต่างๆ
ที่ตัวรถทำงานได้ คือมีระบบ Rolamatics ที่จะทำให้ไฟสัญญาณหมุนได้
เรดาห์หมุนได้ ลูกสูบในเครื่องยนต์ขึ้นลงได้ ท่อไอเสียสั่นได้ รถเจมส์บอนด์ของ Corgi
ที่จะมีกลไกต่างๆ ทำงานได้เหมือนรถจริงๆ ในภาพยนตร์ (รถเจมส์บอนด์รุ่นหลังๆ ที่ผลิตขึ้นมาจะไม่ค่อยมีลูกเล่นแบบนี้ แต่จะเน้นที่มีสัดส่วนรายละเอียดที่สวยงาม)
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาระบบล้อหมุนให้มีความสนุกในการทำให้มันวิ่งเร็วขึ้น เช่น การริเริ่มเป็นคนแรกของล้อ Hot Wheels ของ Mattel ตามมาด้วยล้อ Superfast ของ Matchbox และล้อ Whizzwheels ของ Corgi
รถจำลองที่มีลักษณะเป็นของเล่นในสมัยก่อน การออกแบบมักจะมีรายละเอียด และชิ้นส่วนที่บอบบางจะถูกตัดออกไป เช่น โลโก้ที่อยู่บนหน้าหม้อน้ำของ Mercedes หรืออาจเป็นไปได้ว่าเทคนิคการผลิตในสมัยก่อนยังไม่ดีพอ การหล่อชิ้นส่วนเล็กๆ ทำไม่ได้ โลหะที่ใช้หล่ออาจเปราะบางหักง่าย เทคโนโลยีการทำแม่พิมพ์ไม่ก้าวหน้าพอ และที่สำคัญยังต้องใช้แรงคนในการประกอบตัวรถ พ่นสี และขั้นตอนการบรรจุหีบห่อ
ในยุคนั้นรถของเล่นและรถโมเดลจะรวมอยู่ในประเภทเดียวกัน แยกไม่ออกชัดเจนนัก
ครั้นเมื่อเทคโนโลยีการผลิตมีความก้าวหน้าทันสมัยขึ้น การหล่อชิ้นส่วนต่างๆ ให้เล็กลง มีรายละเอียดคมชัดขึ้น จึงทำให้รถจำลองที่เป็นของเล่นค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นรถโมเดล ส่วนรถของเล่นที่ทำอย่างง่ายๆ ในสมัยก่อนก็ค่อยๆ เลิกผลิตไป และพฤติกรรมการเล่นของเด็กในปัจจุบันก็เปลี่ยนไป เช่น การเล่นเกมส์ออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต ดังนั้นกลุ่มที่เล่นรถโมเดลก็จะเป็นกลุ่มเด็กโตและผู้ใหญ่
ส่วนกลุ่มที่เล่นรถโมเดลซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเน้นรถที่มีขนาดใหญ่ มักจะเก็บรถที่มีขนาด 1:43 ขึ้นไป มีรายละเอียดที่เหมือนจริง แม้แต่วัสดุที่ใช้ทำรถ เช่น เบาะอาจทำจากหนังจริงๆ ขอบคิ้วต่างๆ บนตัวรถมีรายละเอียดชัดเจน และมักเป็นรถจำลองที่ผลิตขึ้นมาในยุคหลังๆ ที่มีเทคโนโลยีการผลิตเจริญก้าวหน้าขึ้นมามากแล้ว พ่อแม่ซื้อรถโมเดลมาก็จะไม่ให้ลูกเล่น ถึงให้ลูกเล่นก็จะเล่นไม่สนุก เพราะมันไม่มีอะไรที่ใช้เล่นได้ เช่น รถถังก็จะไม่มีปืนที่ใช้ยิงกระสุนไม้จิ้มฟันได้ สายพานยางที่รถก็จะทำให้รถวิ่งไม่ได้เร็ว มันเล่นไม่สนุก ก็คือต้องเอาไว้โชว์อย่างเดียว
สรุปแล้วไม่ว่าใครจะสะสมรถเหล็กประเภทไหนต่างก็มีเหตุผลของตัวเองเป็นความสุขส่วนตัวของแต่ละคน และขึ้นกับเงินในกระเป๋าของแต่ละบุคคลด้วยครับ (ข้อนี้สำคัญนะ ใครจะว่าไม่สำคัญ ขอเถียง!)
https://www.lazada.co.th/shop/toy2hand-shop